วันอังคาร ที่ 27 กันยายน 2565 ณ ห้องประชุมวัดกาญจนสิงหาสน์วรวิหาร (วัดทอง) เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ สมาพันธ์สตรีทำความดีแห่งประเทศไทย โดย ดร.เพ็ญจันทร์ ล้อสีทอง ได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับการส่งเสริมคุณภาพชีวิตทุกชีวิตตั้งแต่เด็ก เยาวชน สตรี คนชรา รวมไปถึงผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส ให้ได้รับการคุ้มครองและพัฒนาครอบครัวเป็นปีกแผ่น และมีความเข้มแข็ง มีสุขภาพกาย-ใจ ที่แข็งแรง อายุยืนยาว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ถือว่าเป็นปูชนียบุคคลของสังคมที่มีคุณค่ายิ่ง และให้การดูแลผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

สุขภาพจิต สุขภาพกาย เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ เกิดปัญหาการเกิดโรค ซึ่งส่วนใหญ่เริ่มเป็นปัญหาในวัยกลางคนควรดูแลการบริโภคอาหารที่เหมาะสม มีความรอบรู้ด้านโภชนาการ และคุณค่าสมุนไพรไทย รวมทั้งวัฒนธรรม วิถีชีวิต การประกอบอาหารไทย ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร มีสรรพคุณทางยาช่วยในการป้องกัน และรักษาโรค จึงมีความสำคัญที่จะมีส่วนช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพดีและคุณภาพชีวิตที่ดี

สมาพันธ์สตรีทำความดีแห่งประเทศไทย ได้ประสานความร่วมมือกับองค์กรภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “กินอาหารเป็นยา” เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสมุนไพรไทยที่นำมาใช้ประกอบเป็นอาหาร และนวัตกรรมการแพทย์แผนไทย ที่ช่วยป้องกัน ฟื้นฟู และรักษาโรคต่าง ๆ ได้ด้วยภูมิปัญญาไทย โดยท่านพลเอกนิพนธ์ สีตบุตร ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานโครงการ

กิจกรรมภายในงาน มีการอบรม ให้ความรู้ หลักการ 3 อ. (อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์)

หลักการ 3 ส. (สวดมนต์ สทาธิ สนทนาธรรม)

หลัก 1 น. (นาฬิกา วิถีธรรม)

และได้รับเกียรติจาก ดร.นพอุทัย สุดสุข ประธานมูลนิธิอุทัย สุดสุข ให้ความรู้ในหลักการนี้ อีกทั้งผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ ผู้ชำนาญการ มาร่วมมอบความรู้ ให้ทำไปใช้ในชีวิตประจำได้

ภายในงานได้มีบูธอาหาร บูธเครื่องดื่มสมุนไพร ฯลฯ กิจกรรมตลอดทั้งวัน เพื่อเป็นโมเดลต้นแบบสามารถให้ผู้นำที่ได้รับการฝึกอบรมในครั้งนี้ไปต่อยอด และถ่ายทอดในชุมชนเพื่อคุณภาพชีวิตนำมาซึ่งสุขภาพที่ดี ดังปณิธานที่ ดร.เพ็ญจันทร์ ล้อสีทอง ตั้งใจไว้