AIKO ผู้นำด้านการพัฒนาและผลิตแผงโซลาร์เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงระดับโลก พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมล่าสุดในการใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์ ในงาน ASIA Sustainable Energy Week 2025ภายในงานพบกับผลิตภัณฑ์แผงโซลาร์เซลล์หลากหลายรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานที่เหมาะสำหรับภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ ด้วยความโดดเด่นด้านการผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง มีความแข็งแรง ทนทาน และอายุการใช้งานที่ยาวนาน โดยออกแบบตามความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะ ซึ่งจัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ในระหว่างวันที่ 2-4 กรกฎาคม 2568
กัณฐนันท์ สุขจันทร์ ผู้จัดการภูมิภาคด้านเทคนิคและโซลูชัน เอเชีย-แปซิฟิก AIKO กล่าวว่า “AIKO เป็นบริษัทเทคโนโลยีพลังงานใหม่ชั้นนำระดับโลก ที่มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนา (R&D) ผลิตภัณฑ์ด้านพลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัก รวมถึงการนำเสนอโซลูชัน แบบครบวงจรสำหรับการผลิต จัดเก็บ และการใช้พลังงานไฟฟ้าผ่านแผงโซลาร์แสงอาทิตย์ รวมถึงโมดูล ABC (All Back Contact) ที่ออกแบบตามความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะ ด้วยพันธกิจ “สร้างพลังการเปลี่ยนแปลงโลก สู่อนาคตที่ปราศจากคาร์บอน” AIKO มุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมและเฟ้นหาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอย่างต่อเนื่อง”
AIKO มีเทคโนโลยีหลักในการผลิตที่มีชื่อว่า ABC ด้วยการออกแบบที่ไม่มีเส้นกริดด้านหน้า ย้ายบัสบาร์ทั้งหมดไปไว้ด้านหลังของเซลล์แสงอาทิตย์ เพิ่มความแข็งแรงทางกล ลดความเสียหายของเซลล์ที่เกิดระหว่างการขนส่งและติดตั้ง อีกทั้งยังช่วยให้ดูดซับแสงเต็มพื้นที่ เพิ่มประสิทธิภาพการแปลงพลังงานสูงถึง 25.2% หรือ 250W ต่อตารางเมตร ซึ่งมากกว่าโมดูล TOPCon ที่มีประสิทธิภาพ 23% หรือ 230W ต่อตารางเมตร ทำให้ได้พลังงานมากขึ้นในแผงเดียวกัน ช่วยลดต้นทุนสายไฟและการติดตั้ง อีกทั้งมีค่าสัมประสิทธิ์อุณหภูมิที่ต่ำเพียงแค่ 0.26% ต่อองศาเซลเซียส เทียบกับ TOPCon ที่มีค่าสัมประสิทธิ์อุณหภูมิ -0.29% ต่อองศาเซลเซียส ในประเทศร้อนอย่างไทย จะลดการสูญเเสียพลังงานจากความร้อนได้อย่างชัดเจน
ด้วยเทคโนโลยีการผลิต ABC นี้ แม้แผง AIKO โดนเงาบัง แต่ก็ยังสามารถรักษาระดับแรงดันไฟฟ้าให้สูงได้ ทำให้ได้พลังงานเพิ่มขึ้น 30% เมื่ออยู่ในสภาพที่มีเงาบัง อีกหนึ่งความโดดเด่น AIKO ใช้วัสดุที่มีความทนทานต่อความชื้นสูง ทำให้แผงมีความทนทานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น POE ที่ทนต่อความชื้นดีกว่า EVA หรือพูดได้ว่า AIKO มีแผงโซลาร์เซลล์ที่สามารถติดตั้งในน้ำได้นั่นเอง อีกทั้ง แผง AIKO ยังมีการป้องกันไม่ให้อุณหภูมิ Hot Spot สูงเกินกว่า 100 องศาเซลเซียส (ในขณะที่อุณหภูมิ Hot Spot สูงสุดของ TOPCon อยู่ที่ 140-160 องศาเซลเซียส) การคุมอุณหภูมิที่ต่ำช่วยลดการเสื่อมสภาพของแผงได้อย่างดีเยี่ยม
ผู้จัดการภูมิภาคด้านเทคนิคและโซลูชัน เอเชียแปซิฟิก AIKO กล่าวต่อว่า ปัจจัยเด่นที่ส่งผลให้อายุการใช้งานของแผง AIKO ยาวนานถึง 30 ปี เนื่องด้วย AIKO ใช้เซลล์แสงอาทิตย์แบบ ABC (All Back Contact) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีล้ำสมัย ช่วยลดความร้อนสะสมในเซลล์ ทำให้แผงเสื่อมสภาพช้าลง อัตราการเสื่อมสภาพของแผงในปีแรกต่ำซึ่งอยู่เพียงแค่ไม่เกิน 1% การออกแบบที่ทนทานต่อสภาพอากาศ ใช้วัสดุคุณภาพสูง เช่น กระจกป้องกันแรงกระแทก และแผ่นรองด้านหลังที่ป้องกันรังสียูวี ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานสากล เพื่อความทนทานต่อความชื้น ฝนกรด และรังสี UV มีการตรวจสอบกระบวนการผลิตอย่างเข้มงวดในทุกขั้นตอน โดยใช้หุ่นยนต์อัตโนมัติและระบบ AI ในการตรวจสอบเพื่อลดข้อผิดพลาด อีกทั้งโครงสร้างแบบ Half-cut Cell ช่วยลดการสูญเสียพลังงานในกรณีที่แผงถูกเงาบังบางส่วน และเพิ่มความทนทานต่อการแตกร้าว
“มากไปกว่านวัตกรรมและเทคโนโลยีที่มีอยู่ใน AIKO เรายังคำนึงถึงความสวยงามในการออกแบบทำให้ AIKO เป็นเสมือนเฟอร์นิเจอร์ที่มีความเรียบหรูและไม่ทำลายทัศนียภาพให้กับพื้นที่ติดตั้งอีกด้วย สำหรับภาคครัวเรือน AIKO จะช่วยเพิ่มความอบอุ่น ลดการใช้พลังงาน เพิ่มความสวยงามให้บ้านคุณกลายเป็น Smart Home อย่างแท้จริง ส่วนเจ้าของธุรกิจ AIKO จะเป็นโซลูชันพลังงานอัจฉริยะสำหรับภาคธุรกิจและโรงงานอุตสาหกรรมในการประหยัดพลังงานและลดการปล่อยคาร์บอนเป็นการลงทุนสีเขียวที่ช่วยให้เจ้าของธุรกิจบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ AIKO https://aikosolar.com/th/ หรือ Facebook https://www.facebook.com/AIKOEnergyAPAC