อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ พร้อมดันอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอไทย เป็นดาวดวงใหม่บนเวทีอุตสาหกรรมการผลิตแถวหน้าของเมืองไทย หลังพบอนาคตตลาดสิ่งทอและเสื้อผ้าไทยเติบโตไร้ขีดจำกัด ชวนผู้ประกอบการมาอัปเดตเครื่องจักรครบวงจรรุ่นใหม่กว่า 200 แบรนด์ พร้อมตั้งเป้าคนชมงาน 10,000 ค

นางวราภรณ์ ธรรมจรีย์ กรรมการผู้จัดการ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ (RX Tradex เดิมชื่อ รี้ด เทรดเด็กซ์) กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความสามารถในการผลิตสิ่งทอและเครื่องแต่งกายที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ได้อย่างครบวงจร ที่ผ่านมาประเทศไทยยังได้ทำข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศคู่ค้าสำคัญที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทานการผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไทย อาทิ อินเดีย จีน และญี่ปุ่น (ข้อมูลจากกรมเจรจาการค้า) นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีแบรนด์เสื้อผ้าที่ได้รับความนิยมหลายแบรนด์ในตลาดต่างประเทศหลายแห่ง จึงกล่าวได้ว่าประเทศไทยมีโอกาสและแนวโน้มที่จะขยายตลาดเสื้อผ้าและสิ่งทอไปได้อีก โดยการเข้ามาของเทคโนโลยีใหม่ ๆ และการพัฒนาเส้นใยเพื่อให้ตอบโจทย์การสวมใส่จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้มีโอกาสขยายตลาดไปได้เพิ่มมากขึ้น

ทั้งนี้สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ได้ระบุไว้ว่า ในไตรมาสแรกของปี 2567 มูลค่าการส่งออกสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยมีมูลค่า 1,529.4 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 56,000 ล้านบาท โดยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากความสำคัญของอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ สำหรับการเพิ่มโอกาส เสริมจุดแข็ง และส่งเสริมให้มีการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอ อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ จึงได้จัดงาน จีเอฟที (GFT 2024) ขึ้น ในวันที่ 26 – 29 มิถุนายน นี้ ที่ไบเทค บางนา

งานจีเอฟที เป็นงานแสดงเครื่องจักรและเทคโนโลยีการผลิตเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอที่ครอบคลุมที่สุดในอาเซียน จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 24 ในปีนี้ ภายใต้แนวคิด “The Right Match ถักทอธุรกิจกับพันธมิตรที่ใช่” เพื่อส่งมอบโอกาสทางธุรกิจที่สมบูรณ์แบบผ่านเทคโนโลยีและเครื่องจักรทันสมัย จากทั้งในและต่างประเทศ ครอบคลุมตั้งแต่จักรปัก จักรเย็บ เครื่องพิมพ์ลาย ผ้าคุณสมบัติพิเศษ อุปกรณ์เสริม ซอฟต์แวร์ ระบบอัตโนมัติและ AI ไปจนถึงผู้รับผลิตเสื้อผ้า

สำหรับเจ้าของแบรนด์แฟชัน และผู้ที่ต้องการสร้างแบรนด์ รวมทั้งฝ่ายจัดซื้อที่กำลังมองหาชุดยูนิฟอร์มสำหรับองค์กร และลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจากหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ ผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ของขวัญ ยานยนต์ และเกษตรกรรม เพื่อส่งเสริมให้ผู้ผลิตพร้อมสำหรับโอกาสทางธุรกิจในอนาคต โดยคาดว่าจะมีผู้มาร่วมงานนี้กว่า 10,000 ราย

งานจีเอฟที เปรียบได้กับขุมทรัพย์ฐานข้อมูลลูกค้าที่ช่วยให้ผู้แสดงสินค้าและซัพพลายเออร์สามารถสร้างคอนเนคชั่นใหม่ ๆ พบปะว่าที่ลูกค้ากลุ่มใหม่ หรือแม้แต่ได้คอนเนคชั่นจากซัพพลายเออร์ด้วยกันเอง ซึ่งอาจนำไปสู่ความร่วมมือเพื่อพัฒนาสินค้าให้ดีขึ้นและเจาะตลาดได้กว้างขวางขึ้น นอกจากนี้ จีเอฟที ยังมีผู้ร่วมงานจากหลากหลายเชื้อชาติ เช่น สิงคโปร์ ไต้หวัน อินโดนีเซีย ฝรั่งเศส อิตาลี อเมริกา ที่จะช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ที่มาร่วมงาน ทั้งผู้ผลิตที่อยู่ในอุตสาหกรรมมานาน ดีไซเนอร์หรือเจ้าของแบรนด์รุ่นใหม่จะได้พบกับเทคโนโลยี โซลูชั่นหรือซัพพลายเออร์ที่จะช่วยทำให้ความฝันเป็นจริงได้ง่ายขึ้น เพราะคนไทยมีความครีเอทีฟในการคิดค้นสินค้าอยู่แล้ว และมีความสนใจในการส่งเสริมความยั่งยืน ดังนั้นการได้พบปะพูดคุยและเห็นศักยภาพของเทคโนโลยีและเครื่องจักรต่าง ๆ โดยตรงย่อมทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนกว่าการดูและพูดคุยทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว

ภายในงานจีเอฟที มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากผู้แสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศจำนวนรวมกว่า 200 รายโดยเทคโนโลยีเด่นที่ผู้ผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไม่ควรพลาด อาทิ

– เครื่องพิมพ์ TEXTURE PRINT หรือเครื่องพิมพ์อุตสาหกรรมรูปแบบจิตรกรรมหมึกยูวี 3D จากบริษัท THANASARN INTERGROUP สามารถพิมพ์งานหน้ากว้างสูงสุด 180 cm. ความละเอียดสูงสุด 2400 Dpi. ระบบหมึกพิมพ์ UV 3D ลักษณะคล้ายน้ำยางมีความยืดหยุ่นสูง รองรับวัสดุที่มีความหนาสูงสุด 3.5 mm. ใช้งานง่ายทำงานเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ งานพิมพ์ให้ผิวสัมผัสคล้ายภาพพิมพ์ 2 มิติ และ 3 มิติ สร้างเอฟเฟกต์ให้ภาพมีความโดดเด่นมากขึ้น

– เส้นด้าย NYL-ONE (นิล-วัน) จากบริษัท NYL-ONE PROJECT ซึ่งเป็นเส้นใยรีไซเคิลจากอวนจับปลาที่ชาวประมงไม่ใช้งานแล้ว สามารถนำไปผลิตเสื้อผ้า กระเป๋า หมวก สร้างทางเลือกใหม่ให้กับเจ้าของแบรนด์สินค้าและผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม

– นวัตกรรมการย้อมผ้า DryDye จากบริษัท ZS INTERNATIONAL ซึ่งถือว่าเป็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมการย้อมผ้า โดยการไม่ใช่น้ำแม้แต่หยดเดียวเป็นเจ้าแรกของโลกและเจ้าเดียวในไทย นอกจากไม่ต้องบำบัดน้ำเสีย ยังสามารถลดพลังงานและนำของเสียจากคาร์บอนไดออกไซด์และผงย้อมกลับมารีไซเคิลได้กว่า 95%

– PAD System Cloud จาก PAD System International ซึ่งเป็นระบบสร้างแพทเทิร์นแบบออล-อิน-วันในคลาวด์

– เครื่องจักรปักทาจิมะ รุ่น TMCR-VO912F จากบริษัท Stitch Technologies ประเทศไทย ซึ่งเป็นเครื่องจักรปักอัจฉริยะแรกของโลกที่สามารถปรับความตึงของด้ายอัตโนมัติ ประหยัดเวลาผู้ผลิต

– เสื้อผ้าจากเส้นใย Filagen ซึ่งเป็นเส้นใยชนิดพิเศษ มอบคุณสมบัติรักษาความชุ่มชื้นของคอลลาเจนในผิวและป้องกันรังสียูวี โดยบริษัท Thumb in Thai จำกัด

– เส้นใยนาโนซิงค์จากบริษัทเพอร์มา ใช้เทคโนโลยีบีบอัดนาโนซิงค์เข้าไปในเส้นใยอย่างสม่ำเสมอ คุณสมบัติยับยั้งแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา อย่างยั่งยืน ไม่หลุดลอกแม้ซักไปแล้ว 150 ครั้ง จึงไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

นอกจากในส่วนของงานแสดงสินค้าแล้ว จีเอฟที ยังมีส่วนแสดงพิเศษเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมใหม่ๆ ได้แก่

My Style – ผู้รับจ้างผลิต OEM มากฝีมือจะมานำเสนอตัวอย่างสินค้าและบริการ พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อเปลี่ยนไอเดียแบรนด์ในฝันของผู้ผลิตให้กลายเป็นความจริง

Functional Textile – ผู้ผลิตจะพร้อมพิชิตทุกความต้องการของตลาดเครื่องแต่งกายยุคใหม่ ในส่วนแสดงพิเศษที่รวบรวมสิ่งทอพิเศษซึ่งหลากหลายที่สุดในวงการ

Lean Digital Transformation – ส่วนแสดงพิเศษที่ EPSON จะมาโชว์เคสเครื่องพิมพ์ DTG (Direct-to-Garment) ที่มีประสิทธิภาพสูงและรักษ์โลก นอกจากนี้ยังมีเวทีพูดคุยโดยดีไซเนอร์และผู้เชี่ยวชาญจาก EPSON เพื่อเพิ่มผลิตภาพให้มากและมีคุณภาพยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ งานจีเอฟทียังช่วยส่งเสริมองค์ความรู้แก่นักอุตสาหกรรม ผ่าน GFT Forum ซึ่งเป็นการสัมมนาเจาะลึกเทรนด์และอนาคตอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มและสิ่งทอเพื่อเสริมสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจสู่ความสำเร็จในระดับที่สูงขึ้นและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้นักออกแบบแฟชั่นมือใหม่ โดยมีหัวข้อเด่นที่แบ่งเป็น 3 ธีมตามความเชี่ยวชาญของวิทยากรที่เป็นตัวแทนหน่วยงานหรือผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จและน่าจับตา โดยจัดขึ้นวันพุธที่ 26 มิถุนายนถึงวันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน ดังนี้

GFT INDUSTRY FORUM 2024 ในหัวข้อ “ปลดล็อคสู่โอกาสสิ่งทอและแฟชั่นไทยในเวทีโลก”

GFT MARKETING FORUM 2024 ในหัวข้อ “ถักทอธุรกิจ…จับเทรนด์ฮิตมาร์เก็ตติ้งโดนใจ”

GFT BRANDING FORUM 2024 ในหัวข้อ “ถักทอธุรกิจ…ผสานเทคนิคสร้างแบรนด์ปัง” และ

GFT INDUSTRY FORUM 2024 “การยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทยสู่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจจาก OEM สู่ ODM OBM และ OSM”

งานจีเอฟที จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 26-29 มิถุนายน นี้ที่ไบเทค บางนา ผู้ประกอบการและผู้สนใจ สามารถลงทะเบียนชมงานผ่านช่องทางออนไลน์โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ที่เว็บไซต์ www.gftexpo.com หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 0 2686 7222 และขอความกรุณาผู้เข้าชมงานแต่งกายสุภาพ สวมกางเกงขายาว หรือกระโปรง และรองเท้าหุ้มส้น ไม่อนุญาตเยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปีให้เข้าชมงาน ผู้จัดงานสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธให้ผู้หนึ่งผู้ใดเข้าชมงานได้ โดยไม่ต้องแจ้งเหตุผล