บริษัท ปิติสุข เฮลท์แคร์ ในเครือบริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด แตกไลน์ธุรกิจผลิตภัณฑ์เสริมอาหารออกสู่ตลาด นำร่องส่ง “ปิติสุข อิมมู แคป” ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพของผู้บริโภค หลังกระแสผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพกำลังมาแรง ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19

นายปิติ ลีเลิศพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปิติสุข เฮลท์แคร์ จำกัด เปิดเผยว่า “ด้วยประสบการณ์ การบริหารงานด้านการตลาด และการขาย ผลิตภัณฑ์ยาสีฟันดอกบัวคู่ มากว่า 20 ปี ซึ่งผู้บริโภคในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ทำให้มองเห็นโอกาสทางการตลาด จึงได้แตกไลน์สินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยจัดตั้ง บริษัท ปิติสุข เฮลท์แคร์ จำกัด จัดทำผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภายใต้แบรนด์ “ปิติสุข” โดยร่วมมือกับ บริษัท ไมลอทท์ แลบบอลาทอรีส์ จำกัด ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และเครื่องสำอางที่มีชื่อเสียงในตลาดประเทศไทย ค้นคว้าและวิจัยผลิตภัณฑ์ ปิติสุข อิมมู แคป ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อการดูแลภูมิคุ้มกันให้กับผู้บริโภค

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ปิติสุข อิมมู แคป พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดที่ว่า การที่คนเรามีภูมิคุ้มกันของร่างกายที่แข็งแรง จะส่งผลให้อวัยวะ หรือระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการปรับสมดุลการนอนหลับให้ดียิ่งขึ้น เพราะช่วงเวลานอน ถือเป็นเวลาแห่งการซ่อมแซม สร้างเสริม และฟื้นฟูของร่างกาย เพื่อให้ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ร่วมกับการเสริมสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุที่สำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน จะช่วยส่งเสริมให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้อย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์กว่า 1 ปี”

สำหรับผลิตภัณฑ์ “ปิติสุข อิมมู แคป” หรือ PITISUK IMMU CAP DIETARY SUPPLEMENT PRODUCT จะมีส่วนผสมหลัก ได้แก่ รังนก, สารสกัดจากกระชายขาว, ยีสต์ เบต้า กลูแคน, ซิงก์, สารสกัดจากพลูคาว, วิตามิน 13 ชนิด, ผงคาโมมายด์, สารสกัดจากเลมอนบาล์ม, แอล-กลูตามีน, แอล-ธีอะนีน, สารสกัดจากเห็ดชิตาเกะ, สารสกัดจากเห็ดยามาบูชิตาเกะ และสารสกัดจากเห็ดไมตาเกะ นอกจากนี้ “ปิติสุข อิมมู แคป” มีความโดดเด่นโดยเน้นส่วนผสมที่เป็นสารสกัดจากสมุนไพรต่างๆ ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้การนอนหลับมีคุณภาพมากขึ้น

ส่วนกลุ่มเป้าหมายหลักเน้นไปที่กลุ่มคนทำงาน ทั้งชายและหญิง ที่มีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันและการนอนหลับ ซึ่งปัญหาดังกล่าวอาจเกิดได้จากภาวะความเครียด หรือภาวะฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เป็นต้น และกลุ่มลูกค้ารอง จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องภูมิคุ้มกันลดลง หรืออ่อนแอ และมีปัญหาการนอนไม่หลับ โดยกลุ่มนี้มักจะเป็นกลุ่มที่มีโรคประจำตัวร่วมด้วยเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งถือเป็นปัญหาหลักๆ ของคนในปัจจุบัน

นายปิติ กล่าวต่อว่า กลยุทธ์การทำตลาดนั้น จะชูเรื่องการส่งต่อความดี ความห่วงใย เพื่อให้ผู้บริโภคหันกลับมาดูแลตัวเอง ท่ามกลางสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยเชื้อโรค และสภาพอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่นละออง ทั้ง PM2.5 และปัญหาฝุ่นควัน ภาวะสิ่งแวดล้อมรอบตัว ดังนั้นเราควรดูแลภูมิคุ้มกันตั้งแต่วันนี้

ทั้งนี้ “ปิติสุข อิมมู แคป” ได้วางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ อาทิ การโปรโมทผ่านรายการทีวี หรือ ช่องทางออนไลน์ต่างๆ การสร้าง Brand Awareness เพื่อให้ผู้บริโภคจดจำและเชื่อมั่นในตราสินค้า ด้วยการใช้พรีเซนเตอร์ เพื่อสร้างการรับรู้ในกลุ่มผู้บริโภค และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ในระยะเวลาที่รวดเร็ว พร้อมโปรโมชั่นที่คุ้มค่า เพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้อย่างรวดเร็วขึ้น

ผลิตภัณฑ์ “ปิติสุข อิมมู แคป” มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 1,580 บาท ในช่วงแนะนำจะมีโปรโมชั่น เมื่อซื้อผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ 2 กล่องขึ้นไป จะอยู่ที่ 990 บาทต่อกล่อง ในส่วนของช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ จะแบ่งเป็น 3 ช่องทาง ได้แก่ ขายผ่านระบบออนไลน์ ขายผ่านระบบ call center และขายผ่านระบบตัวแทน

ทั้งนี้ บริษัทได้วางเป้าหมายยอดขายของผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไว้ประมาณ 150 ล้านบาท

“อย่างไรก็ตาม มีการคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพ หรือวิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้น จากข้อมูลปีที่ผ่านมา ตลาดวิตามินและเสริมอาหาร มีมูลค่าราว 25,269 ล้านบาท โตขึ้นกว่าเดิม 8% เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคคนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นที่ต้องการของตลาดผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย