เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองครบรอบ 20 ปี พีพี กรุ๊ป (PP GROUP) สองผู้ก่อตั้ง คุณสุวดี พึ่งบุญพระ และ คุณโอฬาร ปุ้ยพันธวงศ์ จัดงาน “PP GROUP 20th Anniversary” ฉลองครบรอบ 20 ปี บอกเล่าเรื่องราวความเป็นตัวตนของ พีพี กรุ๊ป ตลอดการเดินทางในฐานะกลุ่มบริษัทที่เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการในการจัดจำหน่าย ดำเนินธุรกิจ และดูแลภาพลักษณ์ของแบรนด์แฟชั่นลักชัวรีชั้นนำจากทั่วโลกในประเทศไทย พร้อมแนะนำแบรนด์น้องใหม่ และวิสัยทัศน์ในการนำพาธุรกิจแฟชั่นและ ไลฟ์สไตล์รีเทลของประเทศไทยก้าวเข้าสู่ตลาดสากล ณ โรงแรมโฟร์ซีซันส์ กรุงเทพฯ แอท เจ้าพระยาริเวอร์

คุณสุวดี พึ่งบุญพระ ประธานกรรมการ พีพี กรุ๊ป กล่าวว่า “พีพี กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้นในปี 2003 และได้รับความไว้วางใจจากธุรกิจกลุ่มสินค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ให้เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการในการจัดจำหน่าย ดำเนินธุรกิจ และดูแลภาพลักษณ์ของ แบรนด์ในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง และด้วยประสบการณ์การบริหารแบรนด์แฟชั่นลักชัวรีชั้นนำจากทั่วโลก มีความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับวิธีการสร้างและขยายแบรนด์ในประเทศไทย เราจึงมองเห็นโอกาสที่จะต่อยอดธุรกิจให้เติบโตจากเทรนด์อุตสาหกรรมแฟชั่น โดยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา พีพี กรุ๊ป มีการพัฒนาทางธุรกิจอย่างก้าวกระโดด แม้แต่ภายใต้สถานการณ์ โควิด โดยมุ่งมั่นเดินหน้าขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เพิ่มจุดขายในทุกพื้นที่ในจุดยุทธศาสตร์จากเดิม 2,254 ตารางเมตร (20 ร้านค้า) เป็น 4,342 ตารางเมตร (40 ร้านค้า) ภายในสิ้นปีนี้”

คุณสุวดี พึ่งบุญพระ ประธานกรรมการ พีพี กรุ๊ป และ คุณโอฬาร ปุ้ยพันธวงศ์ รองประธานกรรมการ พีพี กรุ๊ป

คุณโอฬาร ปุ้ยพันธวงศ์ รองประธานกรรมการ พีพี กรุ๊ป กล่าวว่า “ในปัจจุบัน พีพี กรุ๊ป มีกลยุทธ์ที่แตกต่างจากคู่แข่ง คือมีแบรนด์ที่หลากหลายทั้งแบรนด์ในกลุ่มแฟชั่น, กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม, กลุ่มไลฟ์สไตล์ และยังมีช่องทางการจัดจำหน่ายของตัวเอง อีกทั้งความหลากหลายของแบรนด์และช่วงราคาทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดในวงกว้าง โดย ปีนี้เรายังคงเดินหน้าในการเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ชั้นนำที่เป็นที่ต้องการและเป็นกระแสในวงการแฟชั่นระดับโลกให้กับตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง”

โดยตลอด 20 ปีที่ผ่านมา พีพี กรุ๊ป เป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับการแข่งขันให้กับธุรกิจในกลุ่มแฟชั่นและไลฟ์สไตล์สำหรับตลาดประเทศไทย อาทิ การเป็นผู้เริ่มนำเสนอสินค้าในกลุ่มสตรีทลักชัวรีให้กับเมืองไทยในปี 2018 หรือการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจดูแลการจัดจำหน่ายให้กับ Casetify ในการนำเสนอไลฟ์สไตล์เกี่ยวกับสินค้ากลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำให้กับเมืองไทยเป็นครั้งแรก

ในอนาคต พีพี กรุ๊ป ตั้งเป้าที่จะเป็น Connector หรือตัวแปรสำคัญในการเชื่อมโยงเมืองไทยกับสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกของ แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ทั่วโลก และมีเป้าหมายคือสร้างความเติบโตอย่างเก้ากระโดดหรือโตขึ้นจากเดิมเป็นสองเท่าภายใน 3 ปีข้างหน้า กับมีทิศทางทางธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการยกระดับ Retail Experience สร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เพื่อดึงดูดให้ผู้คนและกลุ่มเป้าหมายได้เข้ามาสัมผัสกับประสบการณ์กับแบรนด์เทียบเท่ากับการไปซื้อของในร้านหรือช็อปใหญ่ๆ ในโลก

และเพื่อให้เกิดเป็นประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่ออย่างแท้จริง พีพี กรุ๊ป ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันและตอบสนองความต้องการในการเลือกซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภคในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการด้าน OMNI Channel เช่นที่เปิดโอกาสให้ลูกค้า Casetify สามารถออกแบบสินค้าทั้งที่ร้านหรือผ่านออนไลน์และสามารถรับหรือชำระสินค้าได้ในทุกช่องทาง, Upgrade New E-Commerce ให้เกิดประสบการณ์ของผู้ใช้งานที่ประทับใจ ง่ายต่อการใช้งานในทุกแพลตฟอร์ม และ Upgrade Loyalty Program ทั้งการเพิ่มสิทธิประโยชน์ของการเป็นสมาชิก และการเพิ่มรูปแบบการเช็คคะแนนหรือยอดสะสมแบบ Real Time ผ่านแอปพลิเคชั่น ‘PP CLUB’

โดยปัจจุบัน พีพี กรุ๊ป เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายแบรนด์ชั้นนำ ได้แก่ Tory Burch (ทอรี่ เบิร์ช), Givenchy (จีวองชี่), Longchamp (ลองฌอมป์), Roger Vivier (โรเฌร์ วิวิเยร์), MCM (เอ็มซีเอ็ม), Off-White™ (ออฟไวท์), Maison Kitsuné (เมซง คิทสึเนะ), Palm Angels (ปาล์ม แองเจิลส์), Casetify (เคสทิฟาย)

และล่าสุดเพิ่งเปิดตัวแบรนด์ Gentle Monster (เจนเทิล มอนสเตอร์) แบรนด์แว่นตาสัญชาติเกาหลี กับแฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกในเมืองไทยที่ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ โดยได้กระแสการตอบรับที่ดีมากจนสินค้ารุ่นลิมิเต็ดจำหน่ายหมดภายในวันแรกที่เปิดตัว

และยังมีแผนที่จะขยายตลาด นำเข้าแบรนด์ใหม่มาแรงอย่าง AMI (อาร์มี่) ดีไซเนอร์แบรนด์สัญชาติฝรั่งเศส เป็น ร้านแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในช่วงต้นปี 2024 อีกด้วย