เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย จัด “wire & Tube Southeast Asia 2023 – GIFA & METEC Southeast Asia 2023” 4 เมกะเทรดแฟร์สินค้าและนวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานครั้งยิ่งใหญ่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รวมตัวผู้ผลิต ซัพพลายเออร์ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ให้บริการโซลูชันจากทั่วโลกมาร่วมแสดงนวัตกรรมและเทคโนโลยีล่าสุด ครอบคลุมทุกห่วงโซ่คุณค่าทางอุตสาหกรรม อาทิ สายไฟ เส้นลวด เคเบิล ท่อและท่อร้อยสาย ไปจนถึงการผลิตสารเติมแต่ง เครื่องหล่อ อุปกรณ์แปรรูปและเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับหลากหลายภาคส่วน ทั้งการก่อสร้าง ยานยนต์ พลังงานและก๊าซ ไปจนถึงโรงงานผลิตและขึ้นรูปโลหะและเหล็กกล้า นอกจากนี้ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างบุคลากรอย่างการจับคู่ทางธุรกิจ การจัดประชุมและสัมมนาในหัวข้อพิเศษโดยหน่วยงานและองค์กรระดับโลก ทั้งหมดนี้จะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานในไทยและอาเซียนให้เติบโตสู่ระดับโลกพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงภายในภาคธุรกิจที่จะเกิดขึ้น

นายเกอร์นอท ริงลิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมสเซ่ ดุสเซลดอร์ฟ เอเชีย กล่าวว่า “ปัจจุบันความยั่งยืนถือเป็นเป้าหมายการพัฒนาที่ทุกภาคส่วนทั่วโลกให้ความสำคัญ ส่งผลให้อุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานต้องมีการปรับตัวเพื่อรับมือกับความท้าทายด้านการพัฒนาสู่ความยั่งยืน พร้อมกับการมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ จึงนำมาสู่การจัดมหกรรม “wire & Tube Southeast Asia 2023 – GIFA & METEC Southeast Asia 2023” ภายใต้แนวคิด Towards a Sustainable Future – Transforming Challenges into Opportunities หรือการเปลี่ยนผ่านความท้าทายสู่อนาคตแห่งความยั่งยืน ส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้มีศักยภาพพร้อมแข่งขันในระดับโลก โดยการจัดงานในครั้งนี้ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากการจัดมหกรรมดังกล่าวในปีก่อนหน้า ทวีคูณความยิ่งใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ 2 ฮอลล์การจัดแสดง พร้อมรวมตัวผู้จัดแสดงกว่า 400 ราย จาก 30 ประเทศทั่วโลก อาทิ ออสเตรีย จีน เยอรมัน อิตาลี ไต้หวัน สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา พร้อมกันนี้ได้คาดการณ์ว่า 4 มหกรรมใหญ่ประจำปีนี้ จะประสบความสำเร็จ ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมงานกว่า 8,000 ราย ตลอดระยะเวลาการจัดงาน”

ด้าน นายนาวา จันทนสุรคน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า โลกกำลังเผชิญความท้าทายจากหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ทั้งวิกฤติภูมิอากาศ การเปลี่ยนแปลงฐานการผลิตในหลายอุตสาหกรรม สภาวะเศรษฐกิจ ตลอดจนพัฒนาการทางเทคโนโลยีดิจิทัล ความท้าทายดังกล่าวนำมาซึ่งเทรนด์การดำเนินงานใหม่ ๆ สำหรับภาคอุตสาหกรรม เช่น การมุ่งเน้นนโยบายเพื่อความยั่งยืน การสร้างความมั่นคงในห่วงโซ่อุปทาน การพัฒนากลยุทธ์การลงทุนและต้นทุนการผลิตเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน และโมเดลการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นต้น ขณะที่ภาพรวมภาคอุตสาหกรรมไทยยังคงได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ ทั้งจากค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูง การเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย รวมไปถึงความล่าช้าในการจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมา เป็นต้น อย่างไรก็ดีจากการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการล่าสุด คาดการณ์ว่าแนวโน้มความคืบหน้าด้านนโยบายเศรษฐกิจ ประกอบกับการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยว จะช่วยเพิ่มกำลังการบริโภคพร้อมเพิ่มกำลังการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยรายงานขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลกประจำปี 2566 เผยให้เห็นว่าอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยเพิ่มขึ้น 3 อันดับ มาอยู่อันดับที่ 30 จาก 64 เขตเศรษฐกิจทั่วโลกจากสมรรถนะทางเศรษฐกิจและความก้าวหน้าในโครงสร้างพื้นฐานที่ยังสนับสนุน ถือเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเชิงบวกสำหรับเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย

“ประเทศไทยควรเดินหน้าผลักดันความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม อาทิ ยานยนต์ไฟฟ้า ระบบจักรกลอัตโนมัติ พลังงานหมุนเวียน เทคโนโลยีชีภาพ เพื่อเพิ่มเม็ดเงินลงทุนภายในประเทศ นอกจากนี้ภาคอุตสาหกรรมควรมีการพัฒนาอย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น การใช้กระบวนการทางดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การเพิ่มทักษะแรงงานพร้อมดึงดูดผู้เชี่ยวชาญ การเร่งเจรจาการค้าเสรี รวมถึงการสร้างความยั่งยืนในทุกกระบวนการทางอุตสาหกรรม เพื่อให้สามารถสร้างการเติบโตในภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง” นายนาวา กล่าวสรุป

ไฮไลต์ภายในงาน wire & Tube Southeast Asia 2023

สำหรับงานแสดงสินค้าเฉพาะทางด้านลวดและท่อเครื่องจักร ผลิตภัณฑ์ และโซลูชันสำหรับ ลวด สายเคเบิล และท่อ จัดขึ้นในช่วงเวลาที่การผลิต การก่อสร้าง และโครงสร้างพื้นฐานมีความก้าวหน้า อีกทั้งการพัฒนายานยนต์และโทรคมนาคมจะเกิดขึ้นทั่วภูมิภาค เพื่อตอบสนองความต้องการในปัจจุบันและในอนาคตที่จะเกิดขึ้น ภายในงานจึงได้มีการนำเสนอนวัตกรรม เครื่องจักร และเทคโนโลยีระดับแนวหน้า พร้อมเชื่อมต่อผู้ผลิตและแบรนด์ชั้นนำเข้ากับผู้ประกอบการรายใหญ่ ให้เป็นไปตามแนวโน้มของอุตสาหกรรมทั่วโลก พร้อมกิจกรรมพิเศษภายในงานที่จะช่วยเพิ่มโอกาสและการเติบโตให้กับธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ

· ร่วมรับฟังการอิปรายในหัวข้อ ‘การสร้างความสมดุลระหว่างความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคมและการดูแลสิ่งแวดล้อม’ โดยผู้เชี่ยวชาญภาคอุตสาหกรรมเครื่องจักรและโลหะ

· การบรรยายพิเศษโดยสมาคมลวดและเครื่องจักรนานาชาติ (IWMA) ในหัวข้อ ‘โลหะชนิดใหม่ที่จะเข้ามาพลิกโฉมอุตสาหกรรม: ผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี และการใช้งาน’

· การบรรยายพิเศษเรื่องเมืองแห่งอนาคตและความยั่งยืน: การออกแบบและก่อสร้างมหานคร เพื่อตอบโจทย์การขยายตัวของผู้อยู่อาศัยในชุมชนเมือง – กรณีศึกษาจากกรุงเทพมหานครฯ โดย ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์

· การจัดแสดงสินค้าประเภทท่อเหล็ก เทคโนโลยีลวด และนวัตกรรมด้านอุตสาหกรรมโดยบริษัทชั้นนำของประเทศไทย อาทิ บริษัท ไทยเบนกัน จำกัด บริษัท มาร์โปส (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท ไพน์ – แปซิฟิคคอร์ปอเรชั่น จำกัด ตลอดจนบริษัทที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ อาทิ บริษัท Maillefer บริษัท Niehoff และบริษัท Metalube เป็นต้น

ไฮไลต์ภายในงาน GIFA & METEC Southeast Asia 2023

งานดังกล่าวจัดคู่ขนานกับ wire & Tube Southeast Asia 2023 โดยภายในงานมีการรวบรวมเครื่องจักร อุปกรณ์ และโซลูชันด้านโลหะจากบริษัทระดับนานาชาติ พร้อมนำเสนอผลงานเกี่ยวกับระบบโรงหล่อ รวมถึงเครื่องจักรและเทคโนโลยีการหล่อ อุปกรณ์การเท การปั้น การทำแกน การทำแม่พิมพ์ และบูธจากผู้จัดแสดงสินค้า อาทิ

· พาวิลเลียนสมาคมอุตสาหกรรมหล่อโลหะไทย ที่รวบรวมผู้ประกอบการด้านระบบโรงหล่อ เครื่องจักร เทคโนโลยีการหล่อ และอุปกรณ์ที่ทันสมัยของประเทศไทย

· บูธบริษัท ไพน์ – แปซิฟิคคอร์ปอเรชั่น จำกัด หนึ่งในบูธผู้จัดแสดงจากประเทศไทยที่ใหญ่ที่สุด ภายในงาน พร้อมการจัดแสดงวัตถุดิบและอุปกรณ์ครบครันสำหรับโรงหล่อโลหะ และอโลหะ

· บูธบริษัท เอ็ม ไฟ้ว์ เอ็นจิเนียริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด นำเสนอเทคโนโลยีและกระบวนการหล่อโลหะด้วยแรงดันสูง หรือ HPDC พร้อมการจำลองทัวร์โรงหล่อเหล็กเสมือนจริง

· บูธ SMS India Private Limited จัดแสดงผลงาน #turningmetalsgreen พร้อมนำเสนอเกี่ยวกับแนวทางแก้ไขและแนวทางการปฏิบัติด้านอุตสาหกรรมเหล็กที่ยั่งยืน

ทั้งนี้ มหกรรมสินค้าและนวัตกรรมโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ wire & Tube Southeast Asia 2023 – GIFA & METEC Southeast Asia 2023 จัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ – 22 กันยายน 2566 ณ ฮอลล์ 103 – 104 ไบเทคบางนา สำหรับผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมหรือสนใจลงทะเบียนเข้าเยี่ยมชมงาน สามารถติดตามได้ผ่านทางเว็บไซต์ www.wire-southeastasia.com www.tube-southeastasia.com www.metec-southeastasia.com และ www.gifa-southeastasia.com หรือ โทร. 02-559-0856