ปัญหาใต้ตาลึก คล้ำ ดูเหนื่อยโทรม อ่อนเพลีย หรือดูมีอายุ เป็นปัญหาบนใบหน้าที่สามารถสังเกตได้ง่ายมาก จึงเป็นสิ่งที่หลายคนกังวลและต้องการแก้ไข โดยวิธีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่า การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้น สามารถแก้ไขได้จริงหรือไม่ วันนี้บทความนี้มีคำตอบค่ะ
ปัญหาใต้ตาลึก คล้ำ ดูเหนื่อยโทรม เกิดจากอะไร?
1. เรื่องของกรรมพันธุ์ที่มีเบ้าตาลึกและมีเม็ดสีคล้ำใต้ดวงตา
2. เกิดจาก ปัญหาภูมิแพ้ ทำให้เกิดการระคายเคืองโดยรอบดวงตาและคันตา จึงมีการขยี้ตาบ่อยครั้ง ส่งผลให้ผิวหนังอักเสบ และเกิดสีคล้ำตามมาได้
3. การใช้เครื่องสำอาง คอนซีลเลอร์รอบดวงตา ทำให้ต้องมีการเช็ดถูตาในช่วงที่ล้างเครื่องสำอางอยู่เป็นประจำ มีผลให้ผิวหนังบริเวณรอบดวงตามีการอักเสบเกิดขึ้นและเกิดสีคล้ำเช่นเดียวกัน
4. เบ้าตาลึกที่เกิดจากปัญหาสองส่วนหลัก คือ โครงสร้างของกระดูกที่ทรุดตัวลงและไขมันชั้นตื้นที่ยุบตัวหายไป ซึ่งเกิดจากโครงสร้างของกายวิภาค (Anatomy) เดิม, กรรมพันธุ์, และอายุที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
5. ปัญหาหลอดเลือดดำบริเวณรอบดวงตามีการขยายตัว หรือมีการคั่งของเลือดดำเกิดขึ้น สาเหตุนี้มักจะมาจากภาวะการอดนอน และการพักผ่อนไม่เพียงพอ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการนำสาร Hyaluronic Acid ซึ่งใกล้เคียงกับผิวหนังของมนุษย์มากที่สุด ฉีดเข้าไปบริเวณเนื้อเยื่อใต้ตา โดยสารนี้จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย และสามารถเสื่อมสลายได้ไปเองตามธรรมชาติ ในระยะเวลา 6 เดือนถึง 24 เดือนขึ้นอยู่กับรุ่นและโมเลกุลของฟิลเลอร์
โดยการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาให้ออกมาดูสวยงาม ยิ้มแล้วไม่เป็นก้อนหรือเป็นลำนั้น จะต้องฉีดตามโครงสร้างของกายวิภาคเดิมที่ควรจะเป็น ไม่ว่าจะเป็นการฉีดแก้ไขโครงสร้างชั้นกระดูก ไขมันชั้นลึก และไขมันชั้นตื้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เหมาะกับใคร?
• ผู้ที่มีปัญหาใต้ตาลึก ใต้ตาคล้ำ
• ผู้ที่รู้สึกว่าตนเองดูเหนื่อยโทรม ดูอ่อนเพลีย และดูมีอายุ
• ผู้ที่มีปัญหามีร่องหักหน้าแก้ม มีแอ่งเว้าลึกบริเวณใต้ตา
• ผู้ที่มีปัญหายิ้มแล้วมีลำกล้ามเนื้อใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์นั้นสามารถฉีดได้ในทุกเพศทุกวัย ยกเว้นใน ผู้ที่มีประวัติแพ้สาร Hyaluronic Acid, ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์, ผู้ที่เคยฉีดสารแปลกปลอม ที่ไม่สลายตัวมาก่อนหน้า เช่น ซิลิโคนเหลว คอลลาเจน เหลว หรือไขมันปลาวาฬ เป็นต้น
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน?
ฟิลเลอร์โดยส่วนใหญ่จะอยู่ได้ตั้งแต่ 6-18 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น และขนาดโมเลกุลของฟิลเลอร์ รวมถึงเทคนิคการฉีดฟิลเลอร์ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และการดูแลตนเองของผู้ฉีดด้วยเช่นกัน
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายหรือไม่?
อันตรายค่ะ ! เนื่องจากบริเวณใต้ตานั้นเป็นจุดที่อันตราย มีจุดรวมของเส้นเลือดและเส้นประสาทอยู่ค่อนข้างมาก ซึ่งถ้าแพทย์ผู้ทำการฉีดไม่มีความรู้เรื่องโครงสร้างกายวิภาคของใบหน้ามากเพียงพอ อาจทำให้ฉีดผิดพลาดเข้าเส้นเลือด และเกิดอาการเนื้อเน่า เนื้อตาย หรือตาบอดได้
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยความระมัดระวัง และใช้ความปราณีตมากเป็นพิเศษ
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วบวมเป็นก้อน เกิดจากอะไร?
1. เทคนิคการฉีดของแพทย์ อาจเกิดจากการที่แพทย์ฉีดไม่ถูกชั้นโครงสร้างของใบหน้า หรือฉีดแล้วมีฟิลเลอร์ปริมาณมากไปเกาะที่เส้นเอ็นของลำกล้ามเนื้อใต้ตา จึงทำให้เกิดอาการบวมเป็นก้อนได้
2. การเลือกใช้รุ่นฟิลเลอร์ ที่อาจจะไม่เหมาะกับบริเวณที่ฉีด เช่น นำฟิลเลอร์โมเลกุลใหญ่มาฉีดที่บริเวณตื้น ทำให้เกิดการบวมและพองออกมาเป็นก้อนได้
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องใช้กี่ซีซี?
2 ซีซี เป็นปริมาณที่เหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในกรณีที่มีใต้ตาคล้ำและลึก โดยจะใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะกับโครงสร้างกระดูก เช่น Restylane Defyne, Belotero Intense, Yvoire Contour, หรือ Flore Max 1400 แต่หากคุณเป็นคนที่มีใต้ตาคล้ำเล็กน้อย ไม่ลึกมาก สามารถใช้ฟิลเลอร์รุ่น Restylane Vital Light จำนวน 1 ซีซี เพื่อแก้ปัญหาความคล้ำใต้ดวงตาได้
โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้น คือควรเลือกคลินิกหรือสถานประกอบการพยาบาลที่มีความน่าเชื่อถือ ได้มาตรฐานปลอดภัย ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข มีแพทย์ที่มีประสบการณ์มีความชำนาญ และใช้ฟิลเลอร์แท้ผ่าน อย. ที่สามารถตรวจสอบได้
หากคุณกำลังสนใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ MICHIKO Clinic โดยคุณหมอจะทำการวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าคนไข้ก่อนการฉีดเสมอ อีกทั้งยังทำการทดสอบการขยับของกล้ามเนื้อตา ในการมองบน มองตรง และยิ้ม ระหว่างการฉีดเพื่อความแม่นยำในการวางฟิลเลอร์ให้ถูกจุด และแก้ไขปัญหาของคนไข้ได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ
Recent Comments