นายอัศนัย แท่นแก้ว ประธานกรรมการบริหาร บริษัท มายคาร์ เซอร์วิสพลัส 1989 จำกัด ผู้ให้บริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินบนท้องถนน (Roadside Assistance) และรับประกันเครื่องยนต์ ภายใต้แบรนด์ “My Car Service Plus” เปิดเผยหลังการลงนามในสัญญาแต่งตั้งบริษัท อัลฟ่า แคปปิตอล จำกัด เป็นผู้แทนจำหน่ายบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉินบนท้องถนนและรับประกันเครื่องยนต์ของบริษัทว่า เป็นการเพิ่มช่องทางการเข้าถึงให้กับผู้ใช้รถ หลังจากความต้องการซื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ จากพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งอีกด้วย
“ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการเพิ่มช่องทางการขายที่หลากหลาย ผ่านนวัตกรรม และเทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ทั้งแพลตฟอร์ม Digital และ Non-Digital ที่สามารถเข้าถึงความต้องการในทุกไลฟ์สไตล์” นายอัศนัยกล่าว
ที่ผ่านมาลูกค้าหลักของบริษัทคือกลุ่มผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วหรือเต็นท์รถทั่วประเทศ ทั้งในส่วนของการรับประกันเครื่องยนต์และบริการรถเสียฉุกเฉิน ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการเหล่านี้เป็นฟันเฟืองสำคัญที่สร้างการรับรู้ในแบรนด์ จนทำให้ผู้ใช้รถซื้อบริการของบริษัทอย่างต่อเนื่อง
นายอัศนัย กล่าวอีกว่า การบริการช่วยเหลือลูกค้ากรณีรถเสีย หรือแม้กระทั่งลืมกุญแจรถ น้ำมันหมด ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ในราคาเริ่มต้นเพียงปีละ 1,490 บาท เบื้องต้นจะมีผู้เชี่ยวชาญไปดูแล หากไม่สามารถแก้ไขได้ จะใช้รถสไลด์นำรถไปส่งอู่ซ่อมหรือสถานที่ปลอดภัย
ทั้งนี้คาดว่าในสิ้นปีนี้จำนวนผู้ใช้บริการ My Car Service Plus” จะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 40% สำหรับในปีหน้าบริษัทตั้งเป้าที่เพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการให้ได้ราว 400,000 คันหรือ 2% จากผู้ใช้รถยนต์ทั่วประเทศที่มีอยู่ราว 20 ล้านคัน
นายเชิดศักดิ์ สกุลทวีวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัลฟ่า แคปปิตอล จำกัด บริษัทนายหน้าประกันวินาศภัย ชั้นนำของประเทศ ซึ่งได้รับอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย จากสำนักงาน คปภ. กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าการใช้รถได้ลดลงเพราะสภาพเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้ส่งผลกับการธุรกิจประกันภัยรถยนต์มากนัก เพราะถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีสำหรับผู้ใช้รถ และจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ผู้ใช้รถหันมาตระหนักถึงความสำคัญของบริการช่วยเหลือฉุกเฉินรถเสียมากยิ่งขึ้น เนื่องจากสามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายกรณีรถเสียหรืออุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี ซึ่งบริการดังกล่าวจะมีให้สำหรับผู้ที่ซื้อประกันภัยรถชั้น 1 บางแห่งเท่านั้น ส่งผลให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินรถเสียกลายเป็นที่ต้องการและขยายตัวเพิ่มมากขึ้น
สำหรับจุดเด่นของบริการช่วยเหลือฉุกเฉินรถเสียของ “My Car Service Plus” นอกจากเครือข่ายรถยก-รถสไลด์ ที่มีอยู่มากกว่า 3,000 คัน กระจายอยู่ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และให้บริการช่วยเหลือผู้ใช้รถตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว ยังมีแอพพลิเคชั่นที่รับแจ้งเหตุ ซึ่งลูกค้าสามารถติดตามเจ้าหน้าที่ที่มาให้การช่วยเหลือได้อีกด้วย หลังจากความร่วมมือครั้งนี้ บริษัทได้วางแผนที่จะขยายบริการช่วยเหลือฉุกเฉินรถเสียของ My Car Service Plus ไปยังลูกค้าบุคคลที่มีมากกว่า 20,000 ราย และกลุ่มลูกค้าที่เป็นองค์กรรวมถึงพาร์ทเนอร์ของบริษัทอีกด้วย
Recent Comments