ทุกวันนี้ “นวัตกรรม” ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะตัดสินว่าบริษัทใดจะอยู่รอดหรือต้องปิดตัวลงในภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน ยิ่ง SMEs ในภาคอุตสาหกรรมด้วยแล้ว หากสินค้าหรือบริการไม่มีนวัตกรรมโอกาสที่จะรอดจากการแข่งขันเป็นไปได้ยาก ในปัจจุบันการแข่งขันไม่เพียงแค่ระหว่างธุรกิจเท่านั้น แต่ยังต้องต่อสู้กับความต้องการที่ซับซ้อนของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ธุรกิจใดที่ไม่สามารถคิดค้นหรือสร้างสรรค์นวัตกรรมให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ อาจต้องปิดกิจการลงไปอย่างน่าเสียดาย

งานแสดงนวัตกรรมเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการและผู้เข้าชมงานเกิดไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ๆ เพื่อพัฒนาสินค้าของตัวเองให้สามารถทำการแข่งขันในตลาดการค้าได้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้จับมือกับจังหวัดเชียงใหม่ และพันธมิตรองค์กรชั้นนำ จัดงาน FTI Expo 2022 – Shaping Future Industries for Stronger Thailand I “ฉากทัศน์ใหม่อุตสาหกรรมไทยสู่อนาคต เพื่อประเทศไทยที่แข็งแกร่งกว่าเดิม” ระหว่างวันที่ 29 มิถุนายน – 3 กรกฎาคม 2565 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติฯ จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้แนวคิด BIO-CIRCULAR-GREEN ECONOMY (BCG Economy Model) ขานรับนโยบายของรัฐบาลในการเปิดประเทศ และจุดประกายการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของอุตสาหกรรมไทย บนพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร ครอบคลุม 11 คลัสเตอร์อุตสาหกรรม และ 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ ได้ชูแนวคิด BIO-CIRCULAR-GREEN ECONOMY (BCG Economy Model) ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ และเป็นนโยบายสำคัญของการดำเนินการของภาคอุตสาหกรรม การโชว์ศักยภาพและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของภาคอุตสาหกรรมในงาน FTI Expo 2022 บนพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร จะมีการนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำหน้าแห่งอนาคต สินค้าและบริการที่ทันสมัยจากบริษัทชั้นนำระดับประเทศ รวมทั้งเป็นเวทีเปิดกว้างในการแสดงศักยภาพอุตสาหกรรมไทย ทีมีความหลากหลายและครบวงจร เพื่อตอบโจทย์รูปแบบการใช้ชีวิตที่ต้องเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วิถีใหม่ “New Normal” อาทิ ยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมอาหารของไทย อย่าง C.P. Group จัดแสดงบูธในแนวคิด “MAKING TODAY A BETTER TOMORROW” ผ่าน Showcase โมเดลธุรกิจเพื่อความยั่งยืน ตั้งแต่ต้นนํ้าถึงปลายน้ำโดยอาศัยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดการใช้ทรัพยากร และนำวัสดุเหลือใช้จากการผลิตกลับมาใช้ประโยชน์สูงสุด

เจ้าตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอย่างมาม่า บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ได้นำเสนอเทคโนโลยี และนวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้บริโภค ผ่านมาม่า 50th ซีรี่ย์ อาทิ สินค้านวัตกรรมเส้นบะหมี่ผลิตจากโฮลวีต ผลิตจากเห็ดชิตาเกะ และผลิตจากผักเคล

ด้านกลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี ผู้นำทางด้านผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแช่แข็ง PFP จากภาคใต้ ได้นำวัตถุดิบท้องถิ่นของภาคเหนือมาผสมผสานอาหารจากทะเล ภายใต้ คอนเซ็ปท์ “ล้านนามาหน้าร้าน… จากพื้นบ้านสู่ร้านหรู” โชว์นวัตกรรมการดัดแปลงอาหารท้องถิ่นสู่ร้านอาหาร พร้อมขนทัพผลิตภัณฑ์อาหารทะเลเกรดพรีเมี่ยมส่งตรงถึงมือผู้บริโภคในราคาพิเศษ ตอกย้ำเทรนด์ธุรกิจอาหารไปกับบริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูปรายใหญ่ ที่นำนวัตกรรมการเกษตรสมัยใหม่ ‘AGTECH’ เปลี่ยนอนาคต “การเกษตร” ไทย มาร่วมจัดแสดง อาทิ นวัตกรรมการวัดความชื้นในดิน การใช้ข้อมูลจากดาวเทียม โดรนด้านการเกษตร รวมถึงการสาธิตตรวจสุขภาพของแปลงเพาะปลูก

อีกหนึ่งธุรกิจที่กำลังมาแรง ในช่วงที่วิกฤตน้ำมันราคาพุ่งสูงขึ้นในปัจจุบัน และยังเป็นนวัตกรรมรักษ์โลกอีกด้วย คือ นวัตกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้ 2 ยักษ์ใหญ่อย่าง กลุ่มบริษัท ปตท. พร้อมลุยธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า งานนี้ขอนำความก้าวหน้าของธุรกิจด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าแบบครบวงจรมาจัดแสดง อาทิ สถานีอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Station) การให้บริการด้านยานยนต์ไฟฟ้าผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์ม EVMe เป็นต้น และบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) ได้นําเสนอพลังงานหมุนเวียน นวัตกรรมแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และยานยนต์ไฟฟ้า รวมไปถึงสถานีอัดประจุไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยี Ultra Fast Charge ซึ่งใช้เวลาเพียง 15 นาที เพื่อพลิกโฉมประเทศไทยสู่การเป็นสังคมไร้คาร์บอน

พร้อมกันนี้ พบกับรถพลังงานไฟฟ้า 100% โดย MG ได้นำ ‘NEW MG ZS EV’ รถพลังงานไฟฟ้าในรูปแบบ SUV ดีไซน์ล้ำสมัย ภายใต้ แนวคิด BRIT DYNAMIC โดดเด่นด้วยสมรรถนะการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ขนาด 177 แรงม้า แบตเตอรี่ 50.3 กิโลวัตต์/ชั่วโมง และ Mercedes-EQ นำ EQS ยานยนต์ไฟฟ้าคันแรกที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นด้วยแพลตฟอร์มของยานยนต์ไฟฟ้าใหม่ในทุกรายละเอียด ทั้งทางด้านการออกแบบโครงสร้างทางวิศวกรรมจนถึงดีไซน์ภายนอก และภายในที่สะท้อนเอกลักษณ์ของความเป็นยานยนต์สำหรับโลกอนาคต

ตบท้ายโชว์นวัตกรรมแบบล้ำๆ จากบริษัท หัวเว่ย (ประเทศไทย) และ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านบริการโซลูชั่นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ชั้นนำระดับโลก ด้วยโซลูชัน Digital Power เพื่อให้ไทยขึ้นเป็นผู้นำทางด้านนี้ในภูมิภาค ASEAN ขนทัพเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาจัดแสดง อาทิ Digital Transformation, Smart Retail, โซลูชันด้าน SeaPort, Mining Vehicle Manufacturing, Smart Logistic และ Predictive Maintenance หรือนวัตกรรมอากาศยานไร้คนขับ (Sky Scout) โดรนเอนกประสงค์ (M2: Multi-purpose Multi-rotor Drone) จาก RV Connex

 

นายเกรียงไกร กล่าวว่า อีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดในงานนี้ คือ FTI FUTURE FORUM เวทีที่รวมสุดยอดซีอีโอชั้นนำของประเทศทั้งภาครัฐและภาคเอกชน มาร่วมแสดงวิสัยทัศน์และนโยบายการขับเคลื่อนไทยสู่อนาคตในหัวข้อต่างๆ ตลอดระยะเวลา 5 วันของการจัดงาน นอกจากผู้เข้าร่วมงานจะได้ชมและสัมผัส นวัตกรรมล้ำๆ แล้วการได้รับฟัง FORUM จากวิทยากรชั้นนำ เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเปิดโลกทัศน์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม นวัตกรรม และสิ่งแวดล้อมให้กับผู้เข้าชมงานได้เป็นอย่างดี