เมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการจัดกิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน ในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งจัดขึ้นโดย กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (กทบ.)

โดยมี นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา เขต 3 ร้อยตำรวจเอกอรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา เขต 4 นายนิพันธ์ ศิริธร ส.ส.ตรัง เขต 1 นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา เขต 1 นายธัชชญาณ์ณัช เจียรธนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายเบญจพล นาคประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ เครือข่ายหมู่บ้าน องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน และสื่อมวลชนเข้าร่วมงาน

โครงการจัดกิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “สร้างเสริม ส่งต่อ สู่อนาคต” ระหว่างเดือนมิถุนายน–กรกฎาคม 2565 ใน 4 ภูมิภาค 9 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดชัยนาท สงขลา ยะลา นครศรีธรรมราช ชัยภูมิ อุบลราชธานี สุโขทัย เชียงใหม่ และชลบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการรับรู้ผลการดำเนินงานของกองทุนหมู่บ้านฯ และเปิดโอกาสให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนต่าง ๆ รวมทั้งเครือข่ายแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ถ่ายทอดบทเรียนอย่างสร้างสรรค์ การนำผลิตภัณฑ์ของกองทุนหมู่บ้านฯ มาส่งเสริมทำการตลาดสู่ภาคประชาชนให้แพร่หลายมากขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมุ่งเน้นการแสดงอัตลักษณ์และตัวตนของกองทุนหมู่บ้านแต่ละแห่ง เพื่อนำไปสู่การส่งเสริมอาชีพ สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับสมาชิกอย่างยั่งยืน

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสที่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ ได้ดำเนินงานช่วยเหลือชุมชนมาตลอด 20 ปี การก้าวเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ทางกองทุนฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาและเสริมสร้างความมั่นคงแก่ทุกชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์แรกเริ่มที่มีการจัดตั้งกองทุนขึ้นภายใต้การบริหารงานของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มุ่งเน้นให้กองทุนฯ มีส่วนช่วยในการยกระดับเศรษฐกิจชุมชน เสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและนวัตกรรมตามแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน (Local Economy) และ BCG Economy Model ซึ่งเป็นโมเดลการพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ที่จะนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างทั่วถึงและยั่งยืน

รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การก่อตั้งกองทุนหมู่บ้านฯ มีแนวคิดเพื่อให้ประชาชนหลุดพ้นจากความยากจน หมดหนี้สิน สามารถพึ่งพาตนเองได้ และมีฐานะที่มั่นคงอย่างเท่าเทียม ตนเชื่อว่าการเสริมความเข้มแข็งผ่าน “เงินบาทแรกของแผ่นดิน” ซึ่งก็คือเงินจากดิน เงินจากน้ำ เป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานให้สามารถเดินต่อได้ และจะเป็นแนวทางให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ทางกองทุนฯ ตั้งไว้ คือ การสร้างรายได้ให้กับสมาชิกอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ การจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศเกิดความเข้มแข็ง ต้องคำนึงถึงกำลังซื้อหลัก ซึ่งนั่นคือคนที่อยู่ในระดับเศรษฐกิจฐานรากที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ

โอกาสนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบรางวัลชนะเลิศและรองชนะเลิศแก่ผู้แทนกองทุนหมู่บ้านฯ ใน 3 สาขา ประกอบด้วย ประเภทกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตัวอย่าง ประเภทโครงการตามแนวทางประชารัฐตัวอย่าง และ ประเภทเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตัวอย่าง และได้เยี่ยมชมนิทรรศการ ผลงานของกองทุนหมู่บ้านฯ

นอกจากนี้ พร้อมกันนี้ ยังได้จัดกิจกรรมนำสื่อมวลชนร่วมชมผลงาน 2 กองทุนหมู่บ้านที่ได้รับรางวัล ได้แก่ รางวัลชนะเลิศ ประเภทกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตัวอย่าง ได้แก่ กองทุนหมู่บ้านนาแสน หมู่ที่ 6 ตำบลทุ่งตำเสา อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่มีจุดเด่นด้านการส่งเสริมการออมให้กับสมาชิกและประชาชนในชุมชน โดยการพัฒนากองทุนหมู่บ้านเป็นสถาบันการเงินชุมชนอย่างเป็นระบบโดยใช้โปรแกรมการเงินเฉพาะกองทุนหมู่บ้าน การต่อยอดทำกองทุนหมุนเวียนสินค้าประชารัฐ และเป็นศูนย์การเรียนรู้

และ รางวัลรองชนะเลิศ ประเภทกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตัวอย่าง ได้แก่กองทุนหมู่บ้านปลักจอก หมู่ที่ 5 ตำบลนาหมอศรี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา ที่มีความโดดเด่นด้านการเป็นกองทุนกู้ยืม เป็นร้านค้าประชารัฐ และผลิตสินค้าประชารัฐ ได้แก่ ปลาส้ม ลูกหยี เครื่องแกง น้ำยาล้างจาน และข้าวสาร รวมทั้งมีการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ ณ ที่ทำการสำนักงานกองทุนหมู่บ้านอีกด้วย