เมื่อเข้าสู่ศักราช 2567 เทรนด์การซื้อและสั่งสร้างที่อยู่อาศัยก็เปลี่ยนไปจากในอดีตอย่างชัดเจน โดยเป็นผลพวงจากการปรับตัวเรียนรู้การใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ หลังผ่านวิกฤตสุขภาพที่กระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ และชีวิตผู้คนในระดับโลกที่ผู้คนต้องใช้ชีวิตอยู่ในที่อยู่อาศัยต่อเนื่องมากถึง 2 ปี ทำให้ในปัจจุบันผู้ที่ต้องการมีบ้านจะให้ความสำคัญในการมีที่อยู่อาศัยในหลายมิติมากขึ้น ไม่ใช่เพียงราคา, แบบบ้าน, ฟังก์ชันพื้นที่ใช้สอย, มาตรฐานการก่อสร้าง รวมถึงชื่อเสียง ความมั่นคงไม่ทอดทิ้งงานของบริษัทรับสร้างบ้าน แต่ได้หันมาให้ความสำคัญกับการสร้างบ้านที่สามารถรองรับการใช้ชีวิตของสมาชิกในครอบครัวทุก Generation และตอบโจทย์ Lifestyle ของผู้อยู่อาศัยมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อาทิ การรองรับกลุ่มครอบครัวที่มีเด็กเล็ก, ครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ, ครอบครัวที่มีสัตว์เลี้ยง, ผู้อยู่อาศัยที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมต่างๆ และกลุ่มผู้อยู่อาศัยที่ต้องการพื้นที่ทำงานแบบ Work From Home ได้

โดยศูนย์รับสร้างบ้านยุคใหม่ เทรนดี้ โฮม (Trendy Home) บริษัทลูกในเครือบริษัท แลนดี้ โฮม (Landy Home) ซึ่งชูกลยุทธ์บุกตลาดคนยุคใหม่ ที่มีการปฏิวัติสู่ Lifestyle ที่ทันสมัยเท่าทันเทรนด์โลก ด้วยการสร้างบ้านที่เข้าใจทุกความต้องการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง ด้วย Positioning เทรนดี้ โฮม สร้างบ้านสุดคุ้ม ดีไซน์โดนเพื่อคน New Gen” ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูล Customer Data Analytics ตอบโจทย์ความต้องการอยู่อาศัยระดับ Mega Trend เพื่อรุกตลาดสร้างบ้านหลังเล็ก 3-8 ล้านบาทอย่างแท้จริง

โดยปี 2567 เทรนดี้ โฮม ซึ่งนำทัพโดย คุณภัทรา มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์เทรนดี้ โฮม แม่ทัพใหญ่ผู้มี Lifestyle ทันสมัย โดดเด่น และได้วางกลยุทธ์การตลาดในการบุกชีวิตคน New Gen ทุกรูปแบบ ทั้งในด้านการออกแบบบ้าน, การทำการตลาดและโปรโมชั่น, การโฆษณาประชาสัมพันธ์และการสื่อสารแบรนด์ รวมถึงการขยายช่องทางการขายให้หลากหลายและทันสมัยมากยิ่งขึ้น

คุณภัทรา มณีรัตนะพร กล่าวว่า “เราวางแผนเพื่อปฏิวัติวงการธุรกิจรับสร้างบ้านให้ทันสมัย ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการสร้างบ้าน โดยเราเลือกใช้แบรนด์เทรนดี้ โฮม บริษัทลูกในเครือแลนดี้ โฮม เป็นผู้นำในการขับเคลื่อนสู่พันธกิจนี้เป็นแบรนด์แรก เนื่องจากบริษัทเทรนดี้ โฮมมีขนาดที่เล็กกว่าแลนดี้ โฮม ทำให้สามารถปรับตัวได้ง่าย ขับเคลื่อนเพื่อปรับเปลี่ยนสู่ความทันสมัยในทุกมิติได้ไว เพื่อเจาะกลุ่มตลาดรับสร้างบ้าน 3-8 ล้านบาท ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการสร้างบ้าน โดยมีพื้นฐานของความทันสมัยในทุกกระบวนการ ทั้งในด้านการออกแบบ การสั่งสร้าง และการให้บริการต่างๆ โดยในการปฏิวัติครั้งนี้เราตั้งเป้าที่จะวิเคราะห์ Journey ที่ลูกค้าจะได้สัมผัสในการสั่งสร้างบ้าน เริ่มตั้งแต่การขาย การพูดคุยเพื่อปรับแบบบ้าน การทำสัญญา การติดต่อกับหน่วยงานราชการ ตลอดจนถึงการส่งมอบบ้าน เพื่อให้แบรนด์เกิดความเข้าใจอย่างตรงจุดว่าแท้จริงแล้วคนรุ่นใหม่ต้องการใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านแบบไหน ชื่นชอบแบบบ้านและฟังก์ชันพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านแบบใด มีความต้องการในการใช้บริการบริษัทรับสร้างบ้านแบบใดบ้าง เพื่อฉีกกฎการทำธุรกิจแบบเดิมๆ สู่การเป็นบริษัทรับสร้างบ้านสำหรับคนยุคใหม่ที่เข้าใจทุกความต้องการบ้านอย่างแท้จริง”

โดยในปีนี้บ้านทุกหลังของเทรนดี้ โฮม จะยังคงมุ่งเน้นการออกแบบที่สวยงามทันสมัยในราคาที่คุ้มค่า มีฟังก์ชั่นพื้นที่ใช้สอยตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยทุกวัย รองรับการใช้ชีวิตในทุกความชื่นชอบ ครบครันด้วย 4 นวัตกรรม “บ้านสุขภาพดี” เพื่อสุขภาพของทุกคนในครอบครัว ได้แก่ CAP+ ระบบเติมอากาศบริสุทธิ์, CP Design นวัตกรรมบ้านปลอดแมลงสาบ, Trendy Eldercare นวัตกรรมเพื่อผู้สูงอายุ และ Trendy Home Cooling บ้านเย็นอยู่สบาย พร้อมเพิ่มความสะดวกสบาย รองรับการใช้ชีวิตของคนยุคใหม่ อาทิ จุดติดตั้ง EV Charger, Smart Home, Pet Friendly ผ่านการให้บริการในรูปแบบ Personalization ที่ผู้สั่งสร้างบ้านสามารถปรับแบบบ้านและออกแบบบ้าน เพื่อตอบสนองทุกความต้องการเฉพาะบุคคลผ่านการให้คำแนะนำและดำเนินการโดยสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญ

และด้วยการเตรียมพร้อมสู่การรุกตลาดรับสร้างบ้านขนาดเล็ก 3-8 ล้านบาทในปี 2567 อย่างเต็มรูปแบบผ่านการขับเคลื่อนสอดคล้องกันในทุกมิติ ประกอบกับเทรนด์สั่งสร้างที่อยู่อาศัย ที่ผู้คนหันมาให้ความใส่ใจในการคำนึงถึงทำเลที่ตั้งบ้านที่จะต้องมีพื้นที่รองรับการทำงานและการทำธุรกิจได้มากขึ้น สามารถปรับเปลี่ยนสู่การพัฒนาต่อยอดในการทำอาชีพเสริมเพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝันดังที่เคยผ่านมาในอดีตมากยิ่งขึ้น ทำให้ผู้คนเลือกสั่งสร้างบ้านในทำเลที่ดีแทนการให้ความสนใจในการซื้อบ้านในหมู่บ้านจัดสรรหรือคอนโดมิเนียม

 

ทำให้ในปีนี้เทรนดี้ โฮม ได้วางเป้าหมายสัญญาสั่งสร้างบ้านสู่ 600 ล้านบาท แม้กลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านขนาดเล็ก 3-8 ล้านบาทจะต้องเผชิญกับการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ, ราคาวัสดุก่อสร้างที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงปัญหาจากภาระหนี้ครัวเรือนของคนไทยที่ยังคงสูง ทำให้สถาบันทางการเงินมีความเข้มงวดในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยมากขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดหนี้เสียในระบบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในข้อเสียแห่งความผันผวนนี้ กลับเป็นแต้มต่อที่ส่งผลให้เทรนดี้ โฮมยืนอยู่หัวตารางได้อย่างมั่นคง เพราะก่อนที่จะตัดสินใจสั่งสร้างบ้านกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ลูกค้าจะเกิดการศึกษาข้อมูลเพื่อเปรียบเทียบมากขึ้น และจะเลือกสร้างบ้านกับบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ

ทำให้เทรนดี้ โฮม ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเครือแลนดี้ โฮม ซึ่งมีการดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านมาอย่างยาวนานถึง 35 ปี มีทุนจดทะเบียนสูงสุดในประเทศไทย ถึง 200 ล้านบาท มีผลงานการสร้างบ้านในนามบริษัทรับสร้างบ้านเทรนดี้ โฮมมากกว่า 1,000 หลัง มีการรับประกันโครงสร้างยาวนาน 20 ปี อีกทั้งมีการรับประกันอื่น ๆ อีกมากมาย ถือเป็นบริษัทรับสร้างบ้านขนาดเล็กที่ผู้บริโภคเลือกไว้วางใจในการก่อสร้าง การให้บริการ คุณภาพวัสดุ และการป้องกันความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการก่อสร้าง อาทิ งบประมาณการก่อสร้างบานปลาย การถูกสับเปลี่ยนคุณภาพวัสดุเนื่องจากราคาวัสดุในท้องตลาดปรับตัวสูงขึ้น การถูกทิ้งงานก่อสร้างกลางคัน เพื่อก่อสร้างบ้านได้อย่างสบายใจ ไร้ความกังวลนั่นเอง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดตามโปรโมชันและกิจกรรมพิเศษ รวมถึงรับชมแบบบ้านต่าง ๆ ของ Trendy Home
ได้ทาง www.trendyhome.co.th  และ Facebook: Trendy Home by Landy Home, Instagram: trendyhomeofficial หรือติดต่อ Line: @trendyhomeonline