จบไปอย่างสวยงาม พร้อมความยิ่งใหญ่ และความประทับใจของเหล่านักวิ่ง คู่แม่ลูก รวมถึงศิลปิน ดาราที่ตบเท้ามาสร้างตำนานงานวิ่งด้วยกัน สำหรับงานวิ่งเพื่อแม่ “12 สิงหา ฮาล์ฟ มาราธอน กรุงเทพฯ 2023” ครั้งที่ 28 จัดโดยบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ร่วมกับกรุงเทพมหานคร บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด และหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 91 พรรษา ณ ศูนย์ฯ สิริกิติ์

หลังจากที่ห่างหายจากการจัดกิจกรรมนี้มากว่า 3 ปี เพื่อปิดปรับปรุงครั้งใหญ่ เมื่อปี 2562 โดยตลอด 28 ปี ที่ผ่านมามีโอกาสต้อนรับนักวิ่งที่เข้าร่วมกิจกรรมกว่าหลายแสนคน และได้ให้การช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมาแล้วจำนวนมาก เนื่องจากรายได้ของกิจกรรมหลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้ “ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ” เพื่อโรคมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

สำหรับใครที่มาร่วมงานวิ่งในครั้งนี้คงจะดื่มด่ำกับบรรยากาศที่อบอวล และชื่นมื่นไปกับความสุข สนุกกับการวิ่งที่น่าจดจำไม่รู้ลืม แต่สำหรับใครที่พลาดงานวิ่งระดับตำนานในครั้งนี้ เราเก็บภาพบรรยากาศ และความประทับใจภายในงานมาฝากกัน ซึ่งเริ่มจากพิธีจุดเทียนชัยถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินินาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเปิดพิธีงานวิ่งอย่างเป็นทางการ

งานนี้เป็นการวิ่งที่มีทั้งหมด 4 ระยะ คือ ระยะ 21.1 กม. หรือ Half Marathorn สำหรับนักวิ่งที่ชื่นชอบความท้าทาย เพราะที่ต้องวิ่งข้ามถึง 6 สะพาน ระยะ 10 กม. สำหรับนักวิ่งที่อยากจะพิสูจน์ตัวเอง ระยะ 6 กม. สำหรับนักวิ่งการเดินวิ่งเพื่อสุขภาพ และระยะ 1.8 กม. ที่มีทั้งศิลปินดารา เหล่าคู่แม่ลูก และครอบครัวนักวิ่งต่างให้ความสนใจ และร่วมลงวิ่งเพื่อสัมผัสธรรมชาติของสวนเบญจกิติกันมากมาย
หลังจากเสียงแตรปล่อยตัวนักวิ่งไปได้ไม่นาน นักวิ่งระยะ 21.1 / 10/ 6 กม. ก็เริ่มทะยอยเข้าเส้นชัย รวมถึงนักวิ่งชุดดำที่มาพร้อมรอยยิ้มโดดเด่นกว่าใคร นั่นคือ อ.ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หนึ่งในไอคอลของเหล่านักวิ่ง ที่มาวิ่งในระยะ 10 กม. แถมพาทีมงานของกทม. มาอำนวยความสะดวกในการวิ่งครั้งนี้ด้วยในฐานะผู้สนับสนุนการจัดงาน

“วันนี้ตั้งใจมาวิ่งเพราะถือเป็นงานวิ่งในตำนานที่โด่งดังมากๆ หลังจากหยุดไปเพราะมีโควิด และ ทุกคนคงโหยหา อยากจะมาวิ่งในครั้งนี้ เพราะนอกจากจะเป็นการรำลึกถึงพระคุณแม่แล้วยังได้มาออกกำลังกายกันด้วย” อ.ชัชชาติ กล่าว

“ผมเห็นความเปลี่ยนแปลงของศูนย์ฯ สิริกิติ์โฉมใหม่ รู้สึกทึ่งมาก ตอนนี้เรียกได้ว่าเป็นศูนย์ประชุมระดับโลกไปแล้ว ถือเป็นหน้าเป็นตาของคนกรุงเทพ และในอนาคตศูนย์ฯ สิริกิติ์จะเป็นศูนย์กลางของไมซ์ (MICE) ช่วยเชิดหน้าชูตาประเทศได้เลย เพราะไม่มีศูนย์ประชุมที่ไหนอยู่กลางใจเมืองขนาดนี้ และจะทำให้โซนพระราม4 กลายเป็น Smart City ที่เชื่อมโยงความสำคัญของกทม. ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงดูดนักลงทุนมาที่ไทยเราได้อย่างแน่นอน ขอบคุณที่จัดงานดีๆ แบบนี้ และขอให้จัดต่อไปอย่าหยุดนะ” ผู้ว่าชัชชาติกล่าวเสริม

ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุขของเหล่าบรรดานักวิ่งทั้งรุ่นเล็กและรุ่นใหญ่ที่วิ่งเข้าเส้นชัยในแต่ละระยะ ต่างก็มาถ่ายทอดความรู้สึกของการมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

“วินัยในการซ้อมเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการวิ่งระยะ 21.1 กม.” คุณบรรพต ไพเราะ อายุ 58 ปี หนึ่งในนักวิ่ง 21.1 กม. พูดพร้อมกับความภูมิใจกับความสำเร็จในการวิ่งครั้งนี้

“ผมมาจากโคราชครับ แล้วก็เดินทางมาวิ่งงานนี้โดยเฉพาะ ผมชอบงานนี้นะ ผมว่ามันดูคลาสสิกบรรยากาศมันดูอบอุ่น และวิ่งสนุก สำหรับผมการวิ่งข้ามสะพาน ผมว่ามันมีเสน่ห์ วิ่งแล้วมันมีความสุข ได้เจอเพื่อน เจอน้อง เจอพี่ที่รู้จักกัน พอวิ่งเสร็จเราก็มีกิจกรรมทำร่วมกันได้ และที่สำคัญทุกคนที่วิ่งงานนี้ก็จะได้ต้นมะลิไปปลูก หรือมอบให้คุณแม่ ซึ่งตอนนี้ต้นมะลิที่ผมมางานวิ่งครั้งที่ผ่านมา ผมเอาไปปลูกที่บ้านยังงอกงามอยู่ทุกวันนี้เลยครับ” คุณบรรพตกล่าว

หลังจากนั้นเราก็เห็นคุณป้าใส่ชุดลายผ้าขาวม้าสีสันสดใส พร้อมรอยยิ้มกับเหรียญแห่งชัยชนะในครั้งนี้ เลยได้มีโอกาสสัมภาษณ์คุณป้าก้อย “ป้าจะวิ่งต่อไปไม่หยุด ถึงแม้ป้าจะเป็นมะเร็งเต้านม ป้าก็จะมาวิ่งงานนี้ทุกปี เพราะป้าจะได้ร่วมทำบุญจากการวิ่งเพื่อมอบให้ “ศูนย์สิริกิติ์บรมราชินีนาถ” เพื่อโรคมะเร็งเต้านม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ป้าได้ทั้งกำลังกาย และอิ่มใจไปด้วย” ป้าก้อยเล่าต่อว่า
“ป้าอายุจะ 60 แล้ว เป็นครูสอนแอโรบิกค่ะ ไม่มีเวลาซ้อมเลย แต่มาลงงานนี้ เพราะมาวิ่งที่ศูนย์ฯ สิริกิติ์แถบทุกปี แต่ตอนนี้ศูนย์ฯ สิริกิติ์ทำใหม่แล้ว ใหญ่มาก สะดวกสบาย ป้าชอบนะ คิดว่ามาเดินห้าง” ป้าก้อยหัวเราะ

หันไปมองอีกมุมหนึ่งของงานวิ่งได้เห็นครอบครัวนักวิ่งสุดแสนน่ารัก เพราะมากันทั้งครอบครัว “มางานวิ่งครั้งที่ 2 แล้วค่ะ หนูชอบมาวิ่งกับครอบครัวมากๆ วันนี้หนูวิ่ง 6 กม. ค่ะไม่เหนื่อยเลย สนุกมากด้วยค่ะ มีเพื่อนๆ มาวิ่งเยอะเลย งานนี้มีอะไรให้หนูดูเยอะเลย แล้วก็มีรูปสวยๆ ให้หนูเก็บไว้ดูตอนโตด้วย ครั้งหน้ามาแน่นอนค่ะ หนูจะวิ่ง 10 โลเลย” น้องเอิงเอย ฉัตรพิศุทธิ์ ธัญปิตินันท์ วัย 10 ปี สาวน้อยนักวิ่งกับรอยยิ้มแห่งความสุข

คุณแม่ น้องเอิงเอยกล่าวกับเราว่า “งานครั้งนี้คุณพ่อชวน เพราะอยากให้คุณแม่คุณลูกวิ่งด้วยกัน เป็นวันพิเศษ และเราก็อยากทำอะไรพิเศษๆ โดยเลือกมาออกกำลังกายด้วยกัน แล้วคอนเซปต์งานที่จัดเกี่ยวกับวันแม่ มันโดนใจ แทนที่เราจะไปทำอย่างอื่นก็มาวิ่งด้วยกันแล้วก็มาแข็งแรงด้วยกันดีกว่า”

ไม่นานเสียงกรี๊ดของเหล่าแฟนคลับดังจนต้องหันกลับมามอง ก็เห็นเหล่าศิลปินของ GMMTV มารวมตัวเพื่อเตรียมความพร้อมในงานวิ่ง 1.8 กม. ซึ่งจะวิ่งบริเวณโดยรอบของสวนเบญจกิติ พร้อมกับผู้บริหารของศูนย์ฯ สิริกิติ์ และคู่แม่ลูกอีกมากมาย

เมื่อน้อง ๆ ศิลปิน GMM TV. วิ่งเสร็จแล้วก็ถึงเวลาสัมภาษณ์กันหน่อย “วิ่งไป 5 รอบครับ 5 รอบ เท่ากับ 5 หมื่นบาทใช่ไหมครับ ที่จะร่วมสมทบทุนเข้าโรงพยาบาล แบบนี้เหนื่อยแค่ไหน ก็รู้สึกมีความสุขครับ” โอม ภวัต จิตต์สว่างดี ให้สัมภาษณ์หลังจากวิ่ง 1.8 กม. เป็นรอบที่ 5

“ใช่ครับเหนื่อย (หัวเราะ) แต่พอรู้ว่าทุกรอบที่วิ่งวันนี้ จะเป็นเงินที่ร่วมสมทบทุนเข้าโรงพยาบาลก็หายเหนื่อยขึ้นมาเลยครับ และถ้าปีหน้ามีกิจกรรมดีๆ แบบนี้อีก ไม่พลาดที่จะมาเข้าร่วมแน่นอนครับ วันนี้ก็เก็บได้ 4 รอบครับ” โต๋ ทินพันธ์ ตันตุ้ย พูดเสริม
อู๋ ธนบูรณ์ เกียรตินิรันดร์ พูดต่อว่า “จริงๆ ก็รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มาร่วมงานในครั้งนะครับ ถึงแม้จะวิ่งไม่ได้เยอะเท่าเพื่อน แต่ก็ดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ครับ ระหว่างวิ่งก็ Live ไปด้วย ให้แฟนๆ ที่ไม่ได้มาวิ่งด้วยกันได้เห็นถึงความตั้งใจ มุ่งมั่น และจริงจังของพวกเรา ทำเป้าให้ได้เยอะๆ (หัวเราะ) ถ้ามีโอกาสครั้งหน้า มาวิ่งด้วยกันได้นะครับ”

ปิดท้ายด้วยคู่ลูกสุดน่ารัก น้องมิลิน ด.ญ.รัชวิน แผ่นดินทอง อายุ 3 ปี และคุณแม่อรรวินท์ เตชะนิธภัทร “เหรียญสวย หนูอยากมีเหรียญเยอะ ๆ ค่ะ” น้องมิลินชูเหรียญพร้อมชู 2 นิ้ว “วันนี้หนูเดินเยอะมากค่ะ แต่สนุกค่ะ ครั้งหน้าหนูจะมาอีก”

“เคยมาวิ่งเมื่อหลายปีก่อนค่ะ เป็นงานวิ่งที่สนุก และท้าทายมาก เพราะต้องวิ่งข้ามสะพาน ถือว่าเป็นงานเดียวที่ไม่ได้หมูเหมือนงานอื่น อยากให้จัดทุกปี และครั้งหน้ามาแน่นอนค่ะ ทั้งสถานที่ และมีระยะวิ่งหลากหลาย เราสามารถมาวิ่งแบบครอบครัวได้ด้วยเหมาะมาก อาหารการกิน ห้องน้ำ น้องน่าจะ แฮปปี้” คุณแม่อรรวินท์ เสริม

แม้งานวิ่งเพื่อแม่ “12 สิงหา ฮาล์ฟ มาราธอน กรุงเทพฯ 2023” จะจบไปแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่เหล่านักวิ่งพร้อมใจกันบอกคือ ความท้าทายของสะพานแห่งความสำเร็จที่นักวิ่งต่างชื่นชอบ และความอบอุ่นของบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยรอยยิ้มแห่งความรักของครอบครัว อิ่มบุญ สุขใจกับงานวิ่งที่หาไม่ได้จากงานไหน

ใครที่ยังไม่เคยได้มาลองวิ่งเส้นทางที่ครบรสแบบนี้ ครั้งหน้าห้ามพลาด แล้วพบกันใหม่ ครั้งหน้า“12 สิงหา ฮาล์ฟ มาราธอน กรุงเทพฯ 2024” ครั้งที่ 29 ณ ศูนย์ฯ สิริกิติ์