กกท. ประกาศความพร้อมไทยเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ภายใต้แนวคิด “Green SEA Games” และ “Sustainable Paralympics” ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ในรูปแบบ Carbon Neutral มุ่งเน้นปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ควบคู่การจัดแข่งขันที่โปร่งใส ยุติธรรมตามมาตรฐานสากล หรือ Green & Clean Sport มั่นใจไทยครองแชมป์เหรียญทอง
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า จากการที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 – 20 ธันวาคม 2568 ณ กรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสงขลา ต่อด้วยกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ระหว่างวันที่ 20 – 26 มกราคม 2569 ณ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งรัฐบาลได้ตั้งงบประมาณดำเนินการจัดการแข่งขันซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ จำนวน 2,055 ล้านบาท โดยชูแนวคิด “Green SEA Games” และ “Sustainable Paralympics” ในรูปแบบ Carbon Neutral มุ่งเน้นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ อาทิ ส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ การเดินทางร่วม (Carpooling) การใช้รถไฟฟ้าเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการเดินทาง การใช้วัสดุที่ย่อยสลายได้หรือวัสดุที่รีไซเคิลหรือรียูสได้ การใช้พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ในการจัดแข่งขันและกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและปัญหาภาวะโลกร้อน
สำหรับ ตราสัญลักษณ์ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จะใช้ “ปลากัดไทย” เป็นตัวแทน พร้อมคำขวัญ “Ever Forward” (ก้าวไปข้างหน้าไม่หยุดยั้ง) และมาสคอตนำโชคชื่อ “มาวิน” เป็นช้างน้ำวารีกุญชร ส่วนอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ใช้ตราสัญลักษณ์เป็นรูปคนนั่งรถวีลแชร์ พร้อมคำขวัญ “Create Pride Together” (สร้างความภูมิใจไปด้วยกัน) และมาสคอตนำโชคชื่อ “น้องใจแกร่ง” เป็นแมวโคราช
พร้อมกันนี้ กกท. โดย ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ ได้ร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ในการสรรหานักกีฬาหน้าใหม่ที่มีความสามารถเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งจะมีการแข่งขันทั้งสิ้น 50 ชนิดกีฬา รวม 569 รายการ และกีฬาสาธิต 3 ชนิด ส่วนอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 จะมีการแข่งขันทั้งสิ้น 20 ชนิดกีฬา รวมทั้งสนับสนุนการเก็บตัวฝึกซ้อมเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยดูแลในเรื่องของสวัสดิการและค่าตอบแทนแก่นักกีฬาและบุคลากรในวงการกีฬา อาทิ เบี้ยเลี้ยง ที่พักนักกีฬา ค่าตอบแทนผู้ฝึกซ้อม ค่าใช้จ่ายในสนามฝึกซ้อม อุปกรณ์การฝึกซ้อม และการจัดเตรียมสถานที่ต่าง ๆ ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ กระตุ้นและสร้างการรับรู้ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน พร้อมร่วมชมและเชียร์ให้กำลังใจนักกีฬาทีมชาติไทย
ดร.ก้องศักด กล่าวเสริมว่า การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 นอกจากประเทศไทยจะได้แสดงศักยภาพความพร้อมในระดับนานาชาติ จัดการแข่งขันกีฬาตามมาตรฐานสากล ด้วยการยึดหลักความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรมตามกฎกติกา และสร้างความประทับใจให้นักกีฬาต่างประเทศแล้ว ยังเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย และเผยแพร่ซอฟต์พาวเวอร์ไทยในฐานะจุดหมายปลายทางที่โดดเด่นด้านกีฬาและการท่องเที่ยว การประชาสัมพันธ์ที่แสดงถึงเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและความงดงามของสถานที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศไทย เพื่อดึงดูดนักกีฬา นักท่องเที่ยว และผู้ติดตามการแข่งขันจากทั่วโลก
“กกท. ได้รับมอบนโยบายจาก นายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสรวงศ์ เทียนทอง ในการเตรียมความพร้อมประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์และอาเซียนพาราเกมส์ ซึ่งได้มีการแถลงข่าวคิกออฟการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันไปเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา และได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่าด้วยนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการกีฬาจะทำให้การเป็นเจ้าภาพในครั้งนี้จะบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยเน้นหลักการ Green & Clean Sport ซึ่งแน่นอนว่าเป้าหมายของไทยคือ การเป็นเจ้าเหรียญทอง พร้อมทั้งขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพที่ดีในการต้อนรับนักกีฬาจากทั่วภูมิภาคอาเซียน” ผู้ว่าการ กกท. กล่าวในตอนท้าย
ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ได้ที่ www.sat.or.th หรือ Facebook: ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ Elite Sports Development Department
Recent Comments