ANESSA (อเนสซ่า) ผลิตภัณฑ์กันแดดอันดับ 1 ประเทศญี่ปุ่น จัดงาน ANESSA ผิวสวยหยุดเวลาภายใต้คอนเซปต์ “FLY INTO THE SKY” แนะนำผลิตภัณฑ์กันแดด ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk N SPF 50+ PA++++ (ANESSA Gold Milk) โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Auto Booster Technology พร้อมเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ “ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” ณ Fashion Hall ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ตั้งเป้าแคมเปญเพิ่มยอดขายเติบโต 30% ยืนหนึ่งในตลาดกันแดดกลุ่มพรีเมียม จัดอันดับโดยเอซี นีลเส็น (AC Nielsen)

คุณวิทยา รัตนโกมล ผู้อำนวยการกลุ่มผลิตภัณฑ์พรีเมียมสกินแคร์ และแผนงานองค์กรบริษัท ชิเซโด้ (ไทยแลนด์) จำกัด เผยว่า “ANESSA (อเนสซ่า) เป็นผลิตภัณฑ์กันแดดอันดับ 1 จากประเทศญี่ปุ่น ภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์บริษัท ชิเซโด้ (ไทยแลนด์) จำกัดที่ผ่านมา “อเนสซ่า” เองได้รับผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้บริโภคในประเทศไทยมาโดยตลอด ล่าสุดจากการจัดอันดับของ เอซี นีลเส็น (AC Nielsen) เรามียอดขายเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มบิวตี้ซันแคร์ พรีเมียม ในประเทศไทย

และประกอบกับปีนี้บริษัทของเราได้มีการวิจัยศึกษาเกี่ยวกับแสงแดดครบรอบ 100 ปี เราจึงเปิดตัวแคมเปญ “FLY INTO THE SKY” แนะนำผลิตภัณฑ์กันแดด ANESSA Perfect UV Sunscreen Skincare Milk N SPF 50+ PA++++ (ANESSA Gold Milk) โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Auto Booster Technology ที่ช่วยเพิ่มเกราะปกป้องผิวจากในทุกสภาวะที่ผิวต้องเผชิญทั้งความร้อนจากแสงแดด เหงื่อ น้ำ และความชื้นในอากาศ ผสานส่วนผสมของสารบำรุงมากถึง 50% มอบความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ยาวนานปกป้องพร้อมบำรุงภายในขั้นตอนเดียว พร้อมทั้งเปิดตัวแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ล่าสุดอย่าง “ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” เพื่อบอกเล่า และเป็นตัวแทนของแบรนด์เจาะกลุ่มเป้าหมายทุกคนที่ใช้กันแดด

โดยที่ผ่านมาการแข่งขันในตลาดกันแดดในกลุ่มพรีเมียมค่อนข้างสูงมาก ในตลาดกลุ่มพรีเมียมแบ่งเซกเมนต์เป็น Suncare Beauty โดย “อเนสซ่า” เรานำเสนอในรูปแบบ All in 1 กันแดดผสมบำรุงผิว โดยตัว Gold ถือเป็นตัวฮีโร่ ตัวหลักของอเนสซ่า ที่ขึ้นอันดับ 1 ต่อเนื่องยาวนานถึง 21 ปี ในประเทศไทยเราเป็นเบอร์ 1 ในกลุ่มไฮเอนด์ โดยปีที่แล้วเราเติบโตขึ้นมา 45% และในปีนี้เราคาดหวังเติบโตอีก 30% เน้นโตแบบต่อเนื่องจากการที่เรามี “ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” มาช่วยพรีเซนต์ภาพลักษณ์ของแบรนด์ทั้งหมด”

นายวิทยา รัตนโกมล กล่าวต่อว่า “เหตุผลที่เลือก “ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์” เป็นพรีเซนเตอร์ จริง ๆ เราไม่ได้มีตัวเลือกอื่นในใจ เรามีปรัชญาของแบรนด์ “Free to shine” คือ อยากให้ทุกคนใช้ชีวิตภายใต้แสงแดดได้อย่างมั่นใจ เพราะจริง ๆ แสงแดดก็มีประโยชน์กับเรา จากผลการวิจัยพบว่าถ้าเราห่างไกลจากแสงแดดมากๆ จะทำให้เกิดผลกับอารมณ์ส่งผลให้เกิดโรคซึมเศร้า ทำให้เราต้องออกไปรับแสงแดดเพื่อให้ได้รับวิตามินดีด้วย ดังนั้นเราต้องออกอยู่กับแสงแดดออกไปใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เพราะแสงแดดทำให้อารมณ์ หรือ EQ ของเราดี ทำให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพด้วย เราเลยหวังอยากให้ทุกคน Free to Shine ซึ่งชิเซโด้เอง รวมทั้ง อเนสซ่า เวลาที่จะทำแคมเปญเราจะคิดถึงผู้บริโภคเป็นหลัก และน้องญาญ่าเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ “อเนสซ่า” โดยเป็นผู้ใช้เองมามากกว่า 10 ปี น้องญาญ่าเลยเหมือนเป็นตัวแทนผู้ใช้ของอเนสซ่าด้วย นั่นคือ ไม่ใช่เราที่เลือกน้องญาญ่าอย่างเดียว แต่น้องญาญ่าก็เลือกเราด้วย”

“ในส่วนของแผนการตลาด เราตั้งใจว่าจะเติบโตจากปีที่แล้ว 30% เรามีเรื่องของการทำจัย การทำ Social Listening การฟังเสียงผู้บริโภค เพราะปัจจุบันนี้เป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับครีมกันแดด เพราะกันแดดสำคัญมากสำหรับการใช้ชีวิตในยุคนี้ ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของ UV แต่มีเรื่องของมลภาวะด้วย โดยเรายังคงเน้นการใช้สื่อทุก Above the Line และ Below the Line ในแคมเปญของญาญ่า เรามีเรื่องของ TVC สื่อ out of home สื่อ Online Media Tiktok และ Beauty Blogger โดยเราไม่ได้กำหนดให้เค้าโปรโมทเราในสิ่งที่เราเป็น แต่เราให้เค้าได้ลองใช้สินค้า ให้เค้าได้มีโอกาสพูดในเรื่องจริงที่เค้าได้ประสบการณ์จากตัวแบรนด์ของเรา ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริโภคที่ใช้จะค่อนข้างชอบทั้งหมดเพราะผลิตภัณฑ์ของเราออกแบบมาให้สำหรับผู้ใช้งานจริง ๆ

สำหรับช่องทางการขายเราเน้นให้มีทุกที่ ทุกจุดขายที่เอซี นีลเส็น (AC Nielsen) จัดอันดับได้เกินกว่า 1,300 จุด อาทิ Watsons, EVEANDBOY, TOPs, Boots, Tsuruha, Matsumoto, Beautrium, Donki และช่องทางออนไลน์ Watsons Online, Lazada, Shopee และ Konvy ไม่ว่าจะอยู่จุดไหนสามารถซื้อได้ตลอดเวลา” คุณวิทยา กล่าวทิ้งท้าย