ซิสโก้ (NASDAQ: CSCO) ประกาศแนวทางใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าเร่งการปรับเปลี่ยนสู่ดิจิทัล หรือดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น ขณะที่ลูกค้าโยกย้ายทรัพยากรไปสู่ระบบคลาวด์มากขึ้น

ปัจจุบัน โลกมีการเชื่อมต่อถึงกันอย่างกว้างขวางและทั่วถึง โดยพึ่งพาระบบคลาวด์มากขึ้น และทีมงานฝ่ายไอทีก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในการนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้ทั่วไป โดยรองรับการเข้าถึงทุกที่ทุกเวลา ด้วยเหตุนี้ องค์กรธุรกิจจึงต้องปรับเปลี่ยนสู่การดำเนินงานที่ขับเคลื่อนด้วยคลาวด์ซึ่งช่วยเพิ่มความรวดเร็ว การใช้ข้อมูลเชิงลึกที่มีประสิทธิภาพ และการควบคุมการใช้แอปพลิเคชั่น รวมถึงผู้ใช้ และบุคลากรฝ่าไอทีที่กระจายอยู่ตามที่ต่างๆ เพิ่มมากขึ้น

ช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์มากขึ้นจากคลาวด์

ซิสโก้ได้ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา เพื่อผนวกรวมเทคโนโลยีคลาวด์เข้าไว้ในทุกแง่มุมของธุรกิจ มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าในการกำหนดกลยุทธ์ด้านคลาวด์ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ด้วยความมั่นใจสูงสุด โดยครอบคลุม 5 ด้านที่สำคัญ ได้แก่ ความต่อเนื่องในการดำเนินงาน, ข้อมูลเชิงลึก, ความปลอดภัย, การเชื่อมต่อ และการปฏิบัติงาน

ภายในงาน ‘Future Cloud’ เวอร์ช่วลอีเว้นท์ที่ซิสโก้ได้จัดขึ้นเพื่อแสดงความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีคลาวด์ที่ครอบคลุมหลายๆ ด้าน ช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถเชื่อมต่อ คุ้มครอง และนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลที่ไร้รอยต่อโดยอัติโนมัติในโลกของไฮบริดคลาวด์ปัจจุบัน

นายทวีวัฒน์ จันทรเสโน กรรมการผู้จัดการซิสโก้ ประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน กล่าวว่า “หลังการแพร่ระบาด คลาวด์ได้กลายเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของธุรกิจในหลายแง่มุม โดยเฉพาะในการขับเคลื่อนแอปพลิเคชั่น ขณะที่แอปพลิเคชันได้กลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกธุรกิจ และเพื่อช่วยให้ธุรกิจจัดการแอปพลิเคชันหลายร้อยรายการในสภาพแวดล้อมคลาวด์ที่หลากหลาย ซิสโก้ได้ลงทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อสนับสนุนความพร้อม และรองรับการเติบโตของไฮบริดคลาวด์ โดยนำเสนอโซลูชันสำหรับตรวจสอบและโซลูชั่นสำหรับเน็ตเวิร์คอัจฉริยะที่ครอบคลุมมากที่สุดในอุตสาหกรรม รองรับการทำงานบนแอป อินเทอร์เน็ต และคลาวด์ เรามั่นใจว่าลูกค้าของเราจะสามารถเชื่อมต่อ รักษาความปลอดภัย และทำงานบนระบบออโตเมชั่นเพื่อเร่งความคล่องตัว และความยืดหยุ่นด้านดิจิทัลได้มากเท่าที่พวกเขาต้องการในโลกที่ผู้คนเน้นการทำงานบนคลาวด์เป็นหลัก (Cloud-first world)”

ทอดด์ ไนติงเกล รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเครือข่ายองค์กรและคลาวด์ของซิสโก้ กล่าวว่า “ทุกวันนี้ ประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกและเรียบง่ายคือกุญแจสู่ความสำเร็จในโลกดิจิทัล เรามุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าเพื่อสามารถใช้งานระบบคลาวด์ได้อย่างชาญฉลาด และพัฒนารูปแบบการดำเนินงานดิจิทัลที่รองรับการนำเสนอแอพใหม่ๆ ได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นแอพที่ติดตั้งภายในองค์กร หรือบนระบบคลาวด์หลายๆ ระบบ หรือที่ส่วนขอบของเครือข่าย ซิสโก้เป็น บริษัทเดียวที่สามารถนำเสนอความสามารถด้านการตรวจสอบและข้อมูลเชิงลึกในระดับที่เหนือกว่า เพื่อให้ทีมงานฝ่ายโครงสร้างพื้นฐาน เรื่อยไปจนถึงนักพัฒนาแอพ สามารถผสานรวมและจัดการแอพพลิเคชั่นและเวิร์กโหลดต่างๆ ได้จากทุกๆ ที่”

นวัตกรรมไฮบริดคลาวด์ ที่เปิดตัวในวันนี้ได้แก่:

  • การจัดการไฮบริดคลาวด์:
    • เปิดตัว Cisco UCS® X-Series: ระบบประมวลผล Unified Computing System (UCS) ของซิสโก้ถูกใช้งานในดาต้าเซ็นเตอร์ของลูกค้ากว่า 50,000 รายทั่วโลก ระบบ UCS X-Series ซึ่งบูรณาการเข้ากับ Cisco Intersight อย่างสมบูรณ์ นับเป็นระบบรุ่นแรกที่ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับการใช้งานแบบไฮบริดโดยครอบคุลมระบบคลาวด์ที่หลากหลาย ระบบรุ่นนี้ผสานรวมข้อดีของระบบแร็คและเบลดเข้าไว้ด้วยกัน และประกอบด้วยเทคโนโลยี UCS X-Fabric ที่ก้าวล้ำ สามารถจัดการเวิร์กโหลดที่หลากหลายในปัจจุบัน ทั้งยังพร้อมรองรับนวัตกรรมในอนาคต ทั้งในส่วนของโปรเซสเซอร์ การ์ดเร่งความเร็ว และการเชื่อมต่อระบบประมวลผลที่จะเผยโฉมให้เห็นในช่วงทศวรรษหน้า
    • Intersight Cloud Orchestrator: จัดหาเฟรมเวิร์กของระบบอัตโนมัติที่ใช้งานง่ายและอาศัยการเขียนโค้ดเพียงเล็กน้อย (Low-code) ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยากซับซ้อนของขั้นตอนการทำงาน เพื่อให้ทีมงานฝ่ายปฏิบัติการด้านไอทีสามารถผสานรวมโครงสร้างพื้นฐานและเวิร์กโหลดต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ
    • Intersight Workload Engine: แพลตฟอร์มที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพสำหรับเวิร์กโหลดแบบคลาวด์เนทีฟที่ทันสมัย สร้างขึ้นจาก Kubernetes แบบโอเพ่นซอร์ส และ Kernel-based Virtual Machine (KVM) โดยใช้เทคโนโลยี Virtualization แบบคอนเทนเนอร์เนทีฟ Intersight Workload Engine เป็นระบบปฏิบัติการของซิสโก้สำหรับ Hyperflex โดยรองรับการจัดการ SaaS ที่สอดคล้องกัน
    • Cisco Service Mesh Manager: ส่วนต่อขยายใหม่สำหรับ Intersight Kubernetes Service โดยให้การตรวจสอบเชิงลึกและการจัดการที่สะดวกมากขึ้น พร้อมการรักษาความปลอดภัยตามนโยบายที่กำหนด และมีการทำเวอร์ชวลไลเซชั่นสำหรับโครงสร้างบริการบนคลัสเตอร์ของ K8 ทั้งที่ติดตั้งภายในองค์กรและในระบบคลาวด์
    • Cisco Cloud ACI: พร้อมใช้งานบน AWS, Azure และ Google Cloud โดยจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2564 นโยบายร่วมและโมเดลการทำงานของ Cloud ACI จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและความยุ่งยากซับซ้อนในการจัดการระบบไฮบริดคลาวด์และมัลติคลาวด์
    • ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่รองรับการจัดการไฮบริดคลาวด์ได้ที่นี่
  • การตรวจสอบและข้อมูลเชิงลึก:
    • การบูรณาการ ThousandEyes ซึ่งเป็นระบบงานอัจฉริยะด้านคลาวด์และอินเทอร์เน็ต เข้าไว้ในสวิตช์ Cisco Catalyst 8000 Edge Series สำหรับ SD-WAN และสวิตช์ Cisco Nexus 9000 สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้รับทราบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานะของเครือข่ายและประสิทธิภาพของแอพพลิเคชั่น โดยมีการตรวจสอบครอบคลุมพื้นที่ภายในองค์กร สำนักงานสาขา ดาต้าเซ็นเตอร์ และทุกจุดของเครือข่าย WAN ระหว่างผู้ใช้กับแอพพลิเคชั่น
    • Nexus Dashboard Orchestrator ทำหน้าที่เป็นระบบควบคุมส่วนกลางสำหรับการกำหนดและจัดการนโยบายร่วม โดยครอบคลุมไซต์ ACI ภายในองค์กร และบริการ AWS และ Microsoft Azure ในพื้นที่ต่างๆ พร้อมแผนการขยายไปสู่ Google Cloud ในปลายปีนี้
    • Intersight Cloud Orchestrator: จัดหาเฟรมเวิร์กของระบบอัตโนมัติที่ใช้งานง่ายและอาศัยการเขียนโค้ดเพียงเล็กน้อย (Low-code) ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยากซับซ้อนของขั้นตอนการทำงาน เพื่อให้ทีมงานฝ่ายปฏิบัติการด้านไอทีสามารถผสานรวมโครงสร้างพื้นฐานและเวิร์กโหลดต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ
  • บริการด้านประสบการณ์ลูกค้า (CX) สำหรับคลาวด์
  • CX Business Critical Services for Cloud เป็นบริการให้คำปรึกษา พร้อมความเชี่ยวชาญในการออกแบบ ติดตั้ง คุ้มครอง และปรับแต่งระบบสำหรับการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น
  • CX Intersight Workload Optimizer Services ปรับปรุงการใช้ทรัพยากรของแอพพลิเคชั่นในระบบคลาวด์
  • บริการ CX Advanced Services สำหรับ ThousandEyes และ SD-WAN มอบประสบการณ์ด้านแอพพลิเคชั่นที่ดีที่สุดสำหรับโซลูชั่นคลาวด์ ด้วยการออกแบบและบูรณาการระบบโดยทีมผู้เชี่ยวชาญ ช่วยลดความซับซ้อนของโครงการและเพิ่มความรวดเร็วในการปรับเปลี่ยนการดำเนินงาน
  • Custom Quick Start Solutions ให้บริการสำหรับระบบอัตโนมัติแบบครบวงจรและ Infrastructure-as-a-Code (IaaC)

การตอบรับจากภาคอุตสาหกรรม:

“ขณะที่องค์กรต่างๆ ต้องพึ่งพาคลาวด์แอพพลิเคชั่นที่ติดตั้งไว้ในระบบคลาวด์หลายๆ ระบบเพิ่มมากขึ้น การจัดการและดูแลสภาพแวดล้อมไอทีแบบไฮบริดจึงกลายเป็นเรื่องยุ่งยากซับซ้อนอย่างมาก ทีมงานฝ่ายไอทีจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบและปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานแอพพลิเคชั่น โดยทำงานร่วมกับนักพัฒนา ด้วยเหตุนี้ ผู้บริหารไอทีจึงควรพิจารณาและศึกษาเกี่ยวกับนวัตกรรมไฮบริดคลาวด์ล่าสุดของซิสโก้ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรธุรกิจสามารถรองรับการใช้งานระบบคลาวด์ทั้งหมด และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ด้วยการจัดหาโซลูชั่นไฮบริดคลาวด์ที่เพิ่มความสะดวกในการดำเนินการตามกลยุทธ์คลาวด์ขององค์กร” — สตีเฟ่น เอลเลียต รองประธานโครงการ ฝ่าย I&O การจัดการคลาวด์ และ DevOps ของไอดีซี

“KBR ปรับใช้แนวทางที่รองรับทุกระบบคลาวด์สำหรับลูกค้าของเรา รวมถึงการดำเนินงานด้านไอทีภายในองค์กรของเราเอง ซึ่งช่วยให้เราสามารถจัดวางเวิร์กโหลดไว้ในระบบคลาวด์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับลูกค้า, ธุรกิจ และผลประกอบการ นวัตกรรมไฮบริดคลาวด์รุ่นล่าสุดจากซิสโก้สอดรับกับแนวทางของเราในเรื่องคลาวด์ รวมถึงเป้าหมายของเราในส่วนที่เกี่ยวกับระบบไอทีอัตโนมัติ ระบบตรวจสอบ การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัย และการยกระดับการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วยการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน” — เจฟฟ์ ฮอว์ค ผู้อำนวยการฝ่ายระบบประมวลผลและการสื่อสาร กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศของ KBR

“Kaleida Health ไว้วางใจเลือกใช้เทคโนโลยีไฮบริดคลาวด์ของซิสโก้ เพื่อนำเสนอบริการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพสูงให้แก่ผู้ป่วย และรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายอย่างปลอดภัยสำหรับการเข้าถึงข้อมูลเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ บริการสาธารณสุขทางไกล และแอพพลิเคชั่นอื่นๆ โดยครอบคลุมสถานที่ตั้งเกือบ 80 แห่ง นวัตกรรมล่าสุดของซิสโก้อย่างเช่น UCS X Series, Cisco Intersight, Nexus Dashboard, Nexus 9000 และ ACI จะช่วยให้เราเพิ่มความรวดเร็วในการดำเนินโครงการที่เกี่ยวกับดิจิทัล ขณะที่เราขยายไปสู่แพลตฟอร์มคลาวด์ เพื่อเพิ่มกำลังขีดความสามารถ และสร้างรูปแบบการดำเนินงานที่สอดคล้องกันสำหรับสภาพแวดล้อมไฮบริดคลาวด์” ทอม ฮัล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของ Kaleida Heath

“ซิสโก้เป็นพาร์ทเนอร์รายสำคัญสำหรับการเปิดตัวเครือข่ายมือถือแบบคลาวด์เนทีฟของ Rakuten Mobile ในประเทศญี่ปุ่น ด้วยการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ 100G และ 400G Nexus ที่เปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ รวมไปถึงระบบเครือข่ายอัตโนมัติและระบบตรวจสอบของซิสโก้ เราสามารถขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุเป้าหมาย โดยนำเสนอประสบการณ์การเชื่อมต่อมือถือที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าในญี่ปุ่น รวมถึงลูกค้าองค์กรภาครัฐและภาคเอกชน และผู้ให้บริการโทรคมนาคมทั่วโลกบน Rakuten Communications Platform” – ทาเร็ก อามิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของ Rakuten Mobile