“พลเรือเอกชาญชัย เจริญสุวรรณ” อดีตประธานคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปการแพทย์แผนไทย สภาปฏิรูปแห่งชาติ ประกาศเดินหน้า สร้างความเชื่อมั่น “แพทย์แผนไทย” – ส่งเสริมภูมิปัญญาไทย ผสานนวัตกรรม รับสังคมยุคนิวนอร์มอล

ในปัจจุบันการแพทย์แผนไทย เป็นที่รู้จักและถูกยอมรับในวงกว้างมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีบางส่วนที่ขาดความเชื่อมั่น กับภูมิปัญญาไทยเหล่านี้ ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่าง ทั้งนี้ พลเรือเอกชาญชัย เจริญสุวรรณ ได้ให้มุมมองในการสร้างความเชื่อมั่น ทิศทางการแพทย์แผนไทยที่อยากจะให้เป็น พร้อมแนะถึงเวลาสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ตอบโจทย์สังคมในยุคปัจจุบัน

“พลเรือเอกชาญชัย เจริญสุวรรณ” กล่าวว่า “ถ้าถามผมถึงภาพลักษณ์ของแพทย์แผนไทยในปัจจุบัน ผมว่าสังคมไม่ค่อยเชื่อมั่น ในเรื่องของมาตรฐาน วิชาการ คือไม่เชื่อมั่นในการใช้ยาแผนไทย แล้วตำรับยาแผนไทยเองก็ไม่มีงานวิจัย เหมือนกับว่าองค์ความรู้โบร่ำโบราณแล้วก็พิสูจน์ไม่ได้ ผมเลยคิดว่าสังคมขาดความเชื่อมั่นในการมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล”

เมื่อถามว่าแบบนี้แล้วทิศทางของแพทย์แผนไทยที่อยากเห็นในอนาคตจะเป็นอย่างไร ก็ได้คำตอบว่า “อยากเห็นความเชื่อมั่น และศรัทธาในภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย เชื่อมั่นในตำรับยาแผนไทย เพื่อนำมาใช้ดูแลสุขภาพของทุกคน กลับสู่ความรู้ดั้งเดิมที่มันเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง เพื่อแก้ปัญหาระบบสุขภาพองค์รวม ซึ่งมันน่าจะแก้ปัญหาระบบสุขภาพของประชาชนทั้งโลกได้ ผมไม่พูดเฉพาะประเทศไทยด้วยซ้ำไป

ส่วนว่าจะดำเนินการอย่างไรให้เป็นไปตามนั้น ประเด็นสำคัญที่สุดในการสร้างความเชื่อมั่น คือองค์ความรู้ ต้องปรับปรุงแก้ไข ทั้งเรื่องการเรียน การสอน การสอบ การฝึกปฏิบัติ เพื่อให้มีทักษะวิชาชีพอย่างแท้จริง แม้กระทั่งจบมาแล้วก็ต้องมีกระบวนการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต หรือที่เรียกกันว่าการศึกษาต่อเนื่อง เพื่อทำให้เก่ง รักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ที่สำคัญอาวุธของหมอคือยา เพราะฉะนั้นยาแผนไทยต้องมีมาตรฐาน อย่างที่เราพูดกันตลอดเรื่องต้นน้ำปลายน้ำ อย่างกระบวนการปลูกสมุนไพรต้องคิดให้ดีเรื่องความปลอดภัย เช่น ดินตรงที่ปลูกต้องไม่มีโลหะตกค้าง ไม่มีสารเคมี ไม่มีเชื้อรา คือทำให้ต้นน้ำมีความบริสุทธิ์ ปลอดภัย เพื่อนำมาสู่กระบวนการปรุงยา แล้วการปรุงยาก็ต้องมีมาตรฐาน เช่นการเก็บสมุนไพร ให้ถูกต้อง เช่น เช้า กลางวัน เย็น ฤดูร้อน ฝน หนาว เก็บอะไร คือทุกอย่างจะมีเทคนิคการเก็บเพื่อที่จะได้สมุนไพรที่มีสารตัวยาสำคัญ ตามเวลาที่เก็บ ซึ่งเป็นไปตามภูมิปัญญา ตามตำรา”

ส่วนกระบวนการปลายน้ำ ผมคิดว่าสิ่งที่เราต้องให้ประชาชนคือเรื่องขององค์ความรู้ ดังนั้นเราควรจะต้องใช้เรื่องของการสื่อสารออนไลน์เข้ามาช่วย ควรจะต้องมีแอพพลิเคชั่น หรือแพลตฟอร์ม ซึ่งทีมรักษ์แผนไทยของเราเรียกว่า สมาร์ททีทีเอ็ม จะให้ข้อมูลความรู้ทั้งหลาย แม้แต่เรื่องของการอบรม แล้วก็จะมีบันทึกโปรไฟล์ของผู้ที่เข้ารับการอบรมทุกคน เพื่อที่จะนำไปใช้สมัครงาน เรามองเรื่องความมั่นคงของวิชาชีพเป็นหลักด้วย สิ่งเหล่านี้ก็จะประกอบกันเพื่อให้แพทย์แผนไทยมีช่องทางมากขึ้นในการที่จะทำงาน ผมมั่นใจว่าถ้าเราทำแพลตฟอร์มสมาร์ททีทีเอ็มได้ มันจะรวมทุกอย่างไว้ในนั้น ซึ่งอาจต้องใช้เวลา แต่ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำ เพื่อตอบโจทย์สังคมในยุคโลกาภิวัฒน์ ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่เป็นปลีกย่อยก็ยังมีอีกเยอะ”

ส่วนคติประจำใจที่พลเรือเอกชาญชัย ยึดมั่นมาตลอดคือ “ผมเชื่อมั่นในสิ่งที่ผมเป็น ผมเป็นคนใจซื่อ มือสะอาด มีจิตอาสา พึ่งพาได้ นี่เป็นสิ่งที่ผมยึดมั่นมาตลอดชีวิต และผมก็ทำมันมาโดยตลอด”

สำหรับ พลเรือเอกชาญชัย เจริญสุวรรณ เคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ และอดีตประธานคณะอนุกรรมาธิการปฏิรูปการแพทย์แผนไทย สภาปฏิรูปแห่งชาติ เป็นผู้ที่มีความสนใจเรียนรู้ด้านการแพทย์แผนไทย จนเป็นที่ยอมรับและก้าวสู่ตำแหน่งนายกสภาการแพทย์แผนไทย จากวันแรกที่ดำรงตำแหน่ง ๒๐ เมษายน ๒๕๖๑ ถึงวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๔ และรักษาการนายกสภาการแพทย์แผนไทย จนปัจจุบัน

ซึ่งในช่วงนี้กำลังมีการเลือกตั้งคณะกรรมการสภาการแพทย์แผนไทยชุดใหม่ โดยจะเริ่มส่งบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ สิ้นเดือนมีนาคมนี้ และเริ่มส่งคะแนนได้ตั้งแต่ 1-27 เมษายน 2565 โดยต้องส่งกลับมาที่ไปรษณีย์ หลักสี่ 10210 ถึงสภาฯ ก่อนเวลา 16.00 น. ของวันที่ 27 เมษายน 2565 หรือเข้าไปติตตามรายละเอียดต่างๆ ได้ทาง www.thaimed.or.th